SHARE

คัดลอกแล้ว

ชายลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ประกาศตามหาพ่อวัย 82 ปี  หลังพาเที่ยวดอยอินทนนท์และพลัดหลงสูญหายไปตั้งแต่ 9 เมษายน 2561 วอนนักท่องเที่ยวในวันดังกล่าว ตรวจสอบกล้อง เผื่อเจอคนหายติดในภาพถ่าย หรือใครช่วยเหลือให้ติดรถลงมาตีนดอย แจ้งเบาะแสได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันนี้ (4 พ.ย.62) ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โพสต์ข้อความระบุว่า นายชิญญา นาคามูระ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ประกาศตามหาพ่อ “นายคินยา นาคามูระ” อายุ 82 ปี (Mr.Kinya Nakamura) ชาวญี่ปุ่น ได้หายออกจากบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 10.30 น. ลักษณะคนหาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 168 ซม. ผิวสีขาว ลักษณะผมสั้น สีผมดำ-ขาว การแต่งกายสวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีฟ้า-ขาว สวมกางเกงขายาวสีครีม สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ

ทั้งนี้ ต้องการเบาะแสนักท่องเที่ยวที่ไปดอยอินทนนท์เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 อาจถ่ายภาพติดคนหายหรือให้คนหายติดรถลงมาตีนดอย สามารถแจ้งเบาะแสคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โทร 095 6311914

นอกจากนี้ ลูกชายนายคินยา นาคามูระ ได้ระบุข้อความว่า “ตอนเด็กๆ เพื่อนก็ถามว่า นามสกุลเป็นญี่ปุ่น ทำไมพูดญี่ปุ่นไม่ได้เลย แม่ผมเป็นคนไทย พ่อเป็นคนญี่ปุ่น พ่อเดินทางไปทำงานทั่วโลก จะได้เจอพ่อประมาณสามเดือนครั้ง พอเจอกันพ่อก็พยายามพูดภาษาไทยกับผม ผมก็พูดภาษาไทยกับพ่ออย่างเดียวเลย รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็เข้าใจกัน พอโตมาก็เริ่มคุยภาษาอังกฤษกับพ่อ

จริงๆ ถือว่าสนิทกันนะ โดยธรรมเนียมวัฒนธรรมญี่ปุ่น พอต้องไปทำงานหรือเรียนแบบห่างกันเขาจะติดต่อกันแบบนานๆที แต่ผมกับพ่อส่งอีเมล์หากันทุกวัน เล่าชีวิตประจำวัน เล่าเรื่องที่โรงเรียน พ่อก็จะบอกว่า พ่อจะหาเวลามาหา มาเที่ยว ก็คุยกับพ่อแทบทุกวัน พอจบมหาวิทยาลัย ก็ไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นไปเดินสมัครงานหางานทำ พ่อก็ไปส่ง ไปเดินอ่านประกาศรับสมัครงานกับผมด้วย

พ่อเคยเขียนไดอารี่ เป็นภาษาญี่ปุ่น เกี่ยวกับตัวผม เขียนตั้งแต่วันที่แม่ตั้งท้อง วันคลอด เขียนถึงความเจริญเติบโตของผม ตอนเด็กเล่นอะไรบ้าง พ่อก็เขียนลงไปในนั้น พอได้อ่านก็รู้สึกดีใจมากที่พ่อใส่ใจเราขนาดนี้ คิดในใจว่าเราจะดูแลครอบครัวได้ดีเหมือนพ่อมั้ย ความคิดเรา อยากทำงานที่มั่นคง อยากดูแลพ่อให้ได้

พ่อมาประเทศไทยล่าสุดวันที่ 29 มีนาคม 2561 ก็มาอยู่บ้านผมสัปดาห์หนึ่งที่ชลบุรี จากนั้นเช่ารถตู้ไปเที่ยวกัน ก็มีครอบครัวผมกับพ่อ วางแผนไปเที่ยวเชียงใหม่ เพราะไม่ได้ไปนานมากแล้ว เช้าวันที่ 9 เมษายน 2561 เดินทางจากที่พักในตัวเมืองเชียงใหม่ไปเที่ยวดอยอินทนนท์กัน ถึงพระธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริประมาณเกือบสิบโมง ก็ลงไปถ่ายรูป ตรงนี้ผมเคยมาตอนวัยรุ่น จำได้ว่ามันสวยมาก คิดไว้ว่าโตขึ้นอยากพาพ่อมาดู

ผมก็ถ่ายรูปดอกไม้ ถ่ายอะไรอยู่แปบนึง พอเงยหน้ามาก็ไม่เห็นพ่อ วันนั้นคนมาเที่ยวไม่เยอะ มองรอบๆ มีไม่ถึงสิบคน แต่ไม่เห็นพ่อ ก็เดินหากันแปบนึง คิดว่าพ่อรู้ว่าต้องเดินทางขึ้นไปด้านบน พ่ออาจไปรอตรงกิ่วแม่ปาน ผมก็ขึ้นไปดูตรงนั้น เรามีลูกเล็กไปด้วยสองคนมันก็กังวลด้วย ก็ไปตามหาถึงยอดดอยอินทนนท์ ก็ไม่มีใครเห็น เลยย้อนกลับมาที่พระธาตุฯจุดที่พ่อหายไป คราวนี้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยตามหาและสกัดตรงด่านเข้าออกแต่ก็ไม่เจอพ่อ

มีคนงานที่ดอยอินทนนท์ เขาบอกว่าเห็นพ่อเดินลงไปลานหินตรงพระธาตุฯ เราก็คิดว่าพ่อหายเข้าไปในป่า จุดนั้นกล้องวงจรปิดใช้งานไม่ได้ เลยไม่เห็นว่าพ่อกลับขึ้นมาแล้วหรือยังทางอุทยานฯ ทหาร และชาวบ้าน ก็ลงไปช่วยค้นหาในป่า มีสุนัขกู้ภัยมาช่วยดมกลิ่นสะกดรอยด้วยแต่ก็ไม่เจอ กล้องวงจรปิดตรงด่านทางขึ้นก็ไม่ชัด จับป้ายทะเบียนรถไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าจะตัดประเด็นไหนได้บ้าง ระหว่างพ่อยังหลงป่าอยู่กับพ่อติดรถใครกลับเข้าเมืองแล้ว แต่ถ้าพ่อเข้าเมืองพ่อต้องติดต่อกลับมาหาแล้ว

หยุดตามหาคงไม่หยุด มันหยุดไม่ได้ ถ้าไม่ทำอะไรเลย เราจะรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ เคยคิดกระทั่งว่าจะไปตามหาพ่อในป่าด้วยตัวเอง แต่มันก็เกินกำลังเรา ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันค้นหาพ่อในป่า ใจเราก็ตัดไม่ได้ว่าพ่อยังอยู่ในป่านั้นมั้ย อีกใจก็คิดว่าหรือพ่อออกมาแล้ว

หลังพ่อหาย ผมขึ้นไปเชียงใหม่มาเกือบสิบครั้งแล้ว ใครบอกเคยเห็นตรงไหน ผมก็ไปดูมาหมด แต่มันไม่ใช่ ไปดูศพไร้ญาติตามที่ต่างๆ ใจก็ลุ้นไม่อยากให้เจอพ่อในนี้ แต่ไม่ดูก็ไม่ได้ ใจมันคิดตลอด พ่ออยู่ไหนนะ พ่ออยู่ไหนนะ มันรู้สึกว่าเป็นเพราะเรา เกิดคำถามกับตัวเองตลอดว่าพ่อหายไปเพราะเรา เราอยู่กับพ่อคนสุดท้าย เราดูแลพ่อไม่ได้ เราพาแกมาที่นี่

ลืมไม่ได้หรอก มันไม่มีวันลืมได้ ทำใจไม่ได้หรอก จนกว่าจะรู้ว่าพ่ออยู่ไหน ตอนนี้เป็นความรู้สึกรอ รอว่าจะสักวันจะได้เจอพ่อ…”

 

นายชิญญา นาคามูระ

ลูกชายนายคินยา นาคามูระ(คนหาย)

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า