มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม (The Information Technology & Innovation Foundation) เผยว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศให้ทุนวิจัยแก่มหาวิทยาลัย ขณะที่สหรัฐอเมริกาอันดับตกลงเรื่อย ๆ ทั้งที่สหรัฐฯจะมีมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำมากมายซึ่งทำให้เทคโนโลยีของสหรัฐฯเฟื่องฟูในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันร่วงลงมาเป็นอันดับที่ 28 ของโลก
มหาวิทยาลัยที่ส่งเสริมการวิจัยมีส่วนสำคัญมากในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการสร้างนวัตกรรม เพราะมีการส่งต่อความรู้กันผ่านการฝึกหัดวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ต่าง ๆ
ในปี 2017 สวิสเซอร์แลนด์ลงทุน 0.76 เปอร์เซ็นของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไปกับการวิจัยในมหาวิทยาลัย ตัวเลขนี้นับว่าสูงกว่าสหรัฐฯถึง 3.7 เท่า ส่วนเดนมาร์กลงทุนคิดเป็น 0.72% ของ GDP จึงเป็นประเทศที่ลงทุนมากเป็นอันดับ 2 ตามมาด้วยนอร์เวย์ (0.64%)
แต่แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะอันดับตก แต่ก็ยังสูงกว่าญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ จีน และ รัสเซีย
World Economic Forum วิเคราะห์ว่าหากสหรัฐต้องการกลับมาเป็นแถวหน้าของวงการนวัตกรรมก็ต้องเพิ่มงบวิจัยขึ้นอีก โดนต้องให้วงเงินสูงถึง 45,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีถึงจะแซงขึ้นมาเป็นที่ 1 ได้
สำหรับอันดับของประเทศที่มีการลงทุนด้านการวิจัยสูงที่สุดในโลกได้แก่
1.สวิสเซอร์แลนด์
2.เดนมาร์ก
3.นอร์เวย์
4.สวีเดน
5.ออสเตรีย
6.ฟินแลนด์
7.ออสเตรเลีย
8.ไอซ์แลนด์
9.เนเธอร์แลนด์
10.สิงคโปร์