รัฐบาลทุ่มงบกว่า 8 พันล้าน ผุดโครงการยุวชนสร้างชาติ เตรียมรับบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 ปี จำนวน 50,000 คน ไปทำงานอาสากับชาวบ้าน 1 ปี ให้เงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงจะจัดทำโครงการยุวชนสร้างชาติ เพื่อลดหรือชะลออัตราการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศอ และการมีงานทำของประชาชน
โดยปัจจุบันจากการสำรวจพบว่า มีบัณฑิตตกงานมากถึง 370,000 คน และในเดือนมีนาคม 2563 หรือในอีก 4 เดือนข้างหน้า จะมีบัณฑิตกำลังจะจบจากมหาวิทยาลัยอีก 300,000 คน ซึ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะตกงาน ทำให้มีบัณฑิตกำลังจะตกงานรวมกว่า 500,000 คน
รัฐบาลมอบให้กระทรวงการอุดมฯ จัดทำโครงการยุวชนสร้างชาติ ซึ่งจะมี 3 โครงการย่อย ประกอบด้วย บัณฑิตอาสา อาสาประชารัฐ และกองทุนยุววิสาหกิจเริ่มต้น เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าว โดยจะใช้งบประมาณ จำนวน 8,600 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคม 2562 และมั่นใจว่า โครงการยุวชนสร้างชาติจะช่วยลดอัตราการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบ ที่สำคัญจะก่อให้เกิดอาชีพใหม่ด้วย
โครงการยุวชนสร้างชาติ มีเป้าหมายคือเยาวชนวัยหนุ่มสาวในรั้วมหาวิทยาลัยและบัณฑิตจบใหม่ โดยวิธีการแก้ปัญหาจะผ่าน 3 โครงการย่อย คือ
1.โครงการบัณฑิตอาสา เพื่อช่วยบัณฑิตตกงาน ใช้งบประมาณจำนวน 8,000 ล้าน รับจำนวนกว่า 50,000 คน เพื่อให้ลงไปพัฒนาพื้นที่ในชุมชนร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ โดยจะรับบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 ปี ระยะเวลา 12 เดือน จะได้เงินเดือน 10,000 – 15,000 บาท สามารถสมัครได้ที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โครงการบัณฑิตอาสาจะมีหลักการคล้ายกับโครงการบัณฑิตอาสาของอาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่ส่งนักศึกษาที่จบมหาวิทยาลัยไปทำงานพัฒนาชนบท
2.โครงการอาสาประชารัฐ งบประมาณ จำนวน 500 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษาชั้นปี 3-4 จำนวน 10,000 คน ใช้ระยะเวลาทำงาน 4-5 เดือน หรือ 1 ภาคเรียน ให้ไปโครงงานร่วมกับชาวบ้าน และสามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ทั้งหมด โดยจะมีค่าเบี้ยเลี้ยงให้คนละ 5,000 บาท
3.โครงการกองทุนยุววิสาหกิจเริ่มต้น งบประมาณ จำนวน 100 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายเป็นนิสิตนักศึกษาร่วมกับบุคลากรมหาวิทยาลัย ใช้ระยะเวลา 3-5 ปี เพื่อให้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทดลองจัดตั้งสตาร์ทอัพ พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ให้เกิดเป็นนวัตกรรมทางธุรกิจ นวัตกรรมสังคมและนวัตกรรมสร้างสรรค์

(สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม)
โครงการยุวชนสร้างชาติ จะสามารถช่วยลดจำนวนบัณฑิตตกงานได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเริ่มโครงการอาสาประชารัฐก่อนในเดือน ธันวาคมนี้ นำร่องในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ (1 ใน 3 จังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศ) โดยให้นักศึกษา 500 คน จัดกลุ่มทำงานเป็นทีม 8-10 คน มาจากรวมตัวของหลากหลายคณะ นำความรู้ที่เรียนมาไปทำงานร่วมกับชาวบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนในมิติต่างๆ โดยเฉพาะด้านความยากจน ความเหลื่อมลํ้า และปัญหาคุณภาพชีวิต
โดยนักศึกษาเหล่านี้ จะต้องพักอาศัยในชุมชนที่ทำโครงการ เป็นเวลา 4-5 เดือน คิดเป็น 1 ภาคเรียน เรียนรู้ร่วมกับชุมชน มีการทำงานกับชุมชนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามหลักวิชาการ มีอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทีม และมีความร่วมมือกับหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวง อว. รวมถึงหน่วยงานอื่นในพื้นที่ ซึ่งนักศึกษาสามารถเทียบโอนหน่วยกิตการลงพื้นที่ได้เทียบเท่ากับที่เข้าเรียนในชั้นเรียนทั้งหมด
จากนั้นจะเริ่มโครงการบัณฑิตอาสา ในทั่วประเทศซึ่งจะต้องไปขึ้นทะเบียนกับสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่และทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มๆ ละ 8 – 10 คน แต่ละกลุ่มจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ชุมชน 1 ชุมชน และต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขสำคัญคือสมาชิกในกลุ่มทุกคนจะต้องพำนักอาศัยในชุมชนนั้นเป็นระยะเวลา 1 ปีเพื่อเรียนรู้ร่วมกับชาวบ้านและทำโครงงานตามที่ได้รับมอบหมาย