ผ่าพิสูจน์ ‘กระทิงวังน้ำเขียว’ พบถูกยิง เชื่อล่าไปขาย

ประเด็นคือ – จนท.เร่งหาเบาะแสขบวนการล่ากระทิงวังน้ำเขียว โดยผลการผ่าพิสูจน์พบถูกยิงเข้าหน้าอกเลือดท่วมปอด อีกตัวถูกตัดหัวชำแหละเนื้อ ผอ.ชี้มีขบวนการล่าเพื่อการค้า

วันนี้ (13 พ.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพบกระทิงถูกยิงตาย 2 ตัว ที่บริเวณลำห้วย หลังรีสอร์ทท้ายหมู่บ้านเขาแผงม้า หมู่ 4 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ตัวหนึ่งถูกเชือดชำแหละเอาเนื้อ ตัดเอาส่วนหัวเหลือเพียงหนังและส่วนขา 4 ขา ขณะที่อีกตัวอยู่ในสภาพสมบูรณ์ คาดว่าตายมาแล้ว 5 วัน เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว และทีมสัตวแพทย์ ทำการผ่าพิสูจน์ซากกระทิงตัวที่มีสภาพสมบูรณ์ เป็นกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 10 ปี น้ำหนัก 1 ตัน เพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจน

ผลการผ่าพิสูจน์ตัวที่มีซากครบสมบูรณ์ในสภาพเน่าเปื่อย พบว่า มีร่องรอยถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอก กระสุนตัดผ่าช่วงปอดทะลุออกบริเวณแผ่นหลัง แต่ไม่พบหัวกระสุน แรงกระสุนทำให้เลือดออกจนท่วมปอด ลักษณะเป็นอาวุธที่มีอานุภาพรุนแรง ยิงเพียงนัดเดียวทำให้กระทิงตัวขนาดใหญ่ตายคาที่

ขณะที่ ร.ต.อ.ประพันธ์ บัวศรี พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียว เก็บหลักฐานประกอบสำนวน ก่อนสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์เบื้องต้นเพื่อหาเบาะแสคนร้าย คาดว่าเป็นกลุ่มนายพรานล่าสัตว์ป่าเพื่อการค้า ทั้งชำแหละเนื้อและตัดส่วนหัวนำไปขายตามใบสั่งของนายทุนมืด

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลไม่เป็นทางการจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พบว่า ยังคงมีขบวนการล่ากระทิงเพื่อเชือดชำแหละเนื้อและตัดหัวอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้วพบกระทิงถูกล่า 7-8 ตัว และปีนี้พบแล้ว 3 ตัว และยังมีอีกหลายตัวถูกฆ่าตายโดยไม่เหลือร่องรอยหลักฐาน

ด้าน นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผอ.ส่วนอุทยาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ดูแลเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เผยว่า กระทิงทั้ง 2 ตัว มั่นใจว่าถูกนายพรานล่าทำร้ายโดยการยิง ก่อนใช้มีดเชือดชำแหละเอาเนื้อและส่วนหัวไปเพื่อการค้า ขณะที่อีกตัวถูกยิงตายเช่นกัน แต่ยังไม่ได้ชำแหละ ทั้งนี้ได้ประสานตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว เร่งหาเบาะแสจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

นายวิชัย กล่าวอีกว่า การอยู่อาศัยของประชากรกระทิงเขาแผงม้ากว่า 300 ตัว ประชาชนในพื้นที่ได้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว จึงอยู่อาศัยร่วมกันได้เป็นปกติ แต่มีคนเพียงบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมล่ากระทิงเพื่อการค้า ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ในอดีตเมื่อ 10 ปีก่อน มีการล่ากระทิงอย่างกว้างขวาง กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่กดดันจับกุม เงียบหายมาหลายปี ก่อนมาพบการลักลอบล่ากระทิงอีกครั้งในปีนี้