เจาะที่มาคำถาม-คำตอบกับเซอร์ไพรส์วงการสื่อ “ทำMOUไว้แล้ว”

ล้วงที่มาคลิปไวรัล “ปารีณา” ไม่ตอบคำถามนักข่าวที่รัฐสภา เรื่องครอบครองที่ดินต้องสงสัยรุกป่ากว่า 1,700 ไร่ สู่ประโยค “ทำ MOU ไว้แล้ว” 

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. มีคลิปวิดีโอระหว่างการแถลงข่าวของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่รัฐสภา ไม่ตอบคำถามนักข่าวเรื่องที่ดิน 1,706 ไร่ แต่พูดว่า “ทำMOUกับนักข่าวไว้แล้วจนกลายเป็นไวรัล Workpoint News ได้สอบถามที่มาของคำถามจากหนึ่งในผู้สื่อข่าวที่ตั้งคำถามกับ น.ส.ปารีณาอยู่ในขณะนั้น ซึ่งเธอยินดีให้เปิดเผยชื่อนามสกุล แต่ขอสงวนที่จะเปิดเผยต้นสังกัด

ชลธิชา รอดกันภัย เจ้าของวลี “คือมันกลายเป็นว่า พอเรื่องของพรรคฝ่ายค้าน คุณไปโจมตีเขา แต่พอเรื่องตัวคุณเอง คุณไม่สามารถตอบคำถามได้” บอกว่า วันที่ 22 พ.ย. ได้รับมอบหมายให้ไปทำข่าวที่รัฐสภา ซึ่งไฮไลต์วันนั้นมีการประชุม คณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ช่วงสาย น.ส.ปารีณาได้ลงมาแถลงข่าวว่า น้อยใจนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เลือกปฏิบัติ จากการที่พยายามหารือเรื่องปัญหาในกมธ.ป.ป.ช. หลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น ก็มีนักข่าวถาม น.ส.ปารีณา เรื่องที่ดินกว่า 1,700 ไร่ แต่ น.ส.ปารีณาไม่ตอบ ยิ้ม และเดินลงจากโพเดี้ยม

ต่อมาช่วงบ่าย น.ส.ปารีณาได้พานายสนธิญา สวัสดี เข้ามายื่นเรื่องต่อสภาเพื่อขอให้สอบจริยธรรมพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. ตนหาข้อมูลไปก่อนและจำได้ว่า นายสนธิญา เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จึงได้สอบถาม น.ส.ปารีณา และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐอีกคน ทำให้ทั้งสองคนหยุดอิึ้ง และยืนยันว่า นายสนธิญามายื่นเรื่องให้สอบจริยธรรม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ในฐานะประชาชน

หลังแถลงข่าวจบลง ผู้สื่อข่าวที่อยู่ตรงนั้นได้ใช้ตะโกนถามเรื่องที่ดินของน.ส.ปารีณา และที่ต้องใช้เสียงดังเพราะจุดที่แถลงข่าวเป็นพื้นที่โล่ง ก็ต้องใช้เสียงเพื่อให้แหล่งข่าวได้ยินคำถาม แต่ปรากฏว่า น.ส.ปารีณา ไม่พูดกับไมค์ หันมาด้านขวาแล้วพูดว่า “ดิฉันทำMOUกับนักข่าวไว้แล้วค่ะ” และเมื่อหลายคนถามหลายครั้ง รวมทั้งตนก็ถามแล้ว น.ส.ปารีณายังไม่ตอบใส่ไมค์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้แถลงข่าวถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พรรคฝ่ายค้านก็พูดใส่ไมค์ได้ ตนจึงพูดออกไปว่า คือมันกลายเป็นว่า พอเรื่องของพรรคฝ่ายค้าน คุณไปโจมตีเขา แต่พอเรื่องตัวคุณเอง คุณไม่สามารถตอบคำถามได้

ชลธิชา บอกว่า เจตนาของเธอที่พูดอย่างนั้น เพราะเห็นว่าในการแถลงข่าวสองครั้ง น.ส.ปารีณาพูดถึงคนอื่นอย่างเดียว แต่พอเรื่องการตรวจสอบของตัวเอง การครอบครองที่ดินผิดกฎหมาย มันคือหนึ่งในการทุจริต เราต้องทำหน้าที่สื่อมวลชน “มันไม่แฟร์ ที่คุณพูดโจมตี เหมือนปัญหาคนอื่นใหญ่เท่าภูเขา ปัญหาเราเล็กนิดเดียว” ยืนยันเป็นหน้าที่ปกติ ในการทำหน้าที่ของนักข่าว

MOU ที่ น.ส.ปารีณาพูดถึงคืออะไร?

“ไม่รู้ค่ะ ไม่รู้ อันนี้เราก็พูด พอเขาบอกว่าทำ MOU ไว้แล้วก็ถามคุณปารีณากลับว่า MOU คืออะไรคะ? ปารีณาก็พูดว่าลองถามเพื่อนๆ คุณดูสิ ว่า MOU คืออะไร ก็หันไปถามเพื่อนๆ ว่า ปารีณาทำ MOU กับใคร ณ ตรงนั้นก็ไม่มีใครตอบ คือการทำข่าว มันไม่เคยมีหรอก แหล่งข่าวมาทำ MOU กับนักข่าวมันตลกมาก (เธอทำงานข่าวมากว่า 10 ปี ไม่ใช่นักข่าวประจำรัฐสภา)

แล้วเป็นความเข้าใจของตัวเอง คือ มองว่าเขาคงไปคุยกับนักข่าวบางคนที่เขาเชื่อว่าสนิทกัน แล้วคงขอร้องว่าอย่าเพิ่งถามตอนนี้เลย ก็เลยเป็นคำพูดว่า MOU แต่เขาคงไม่รู้ว่าใช้คำพูดแบบไหน หรือคิดไม่ทัน ใช้คำพูดแบบไหนถึงจะเหมาะสม และอาจเตรียมตัวไม่ทันไม่คิดว่าจะโดนนักข่าวจู่โจมถามขนาดนี้ทั้งคุณปารีณาและคุณสิระ”

“คำถามไม่ได้เตี๊ยม (กับนักข่าวด้วยกัน) แต่ตั้งใจว่าต้องถามให้ได้”

1. มันต้องถาม เพราะเป็นเรื่องในกระแส หลังมีนักข่าวไปตรวจสอบแล้ว พื้นที่ของเขาไม่ใช่พื้นที่ราบ มองด้วยสายตาพื้นที่ภูเขาไม่สามารถครอบครองได้ ไม่ใช่ป่าสงวน ก็ต้องของป่าไม้ หรือที่ของส.ป.ก.ที่ให้ชาวบ้านทำกิน คุณปารีณาต้องชี้แจงให้ได้ว่าพื้นที่ที่คุณครอบครองอยู่กว่า 1,700 ไร่ มันมาได้ยังไง แค่นั้นเอง คือเราไม่ได้ว่าเขาผิด แต่ต้องชี้แจงออกมา
2. คุณแถลงข่าวว่า คนโน่นเป็นอย่างนั้น คนนั้นเป็นอย่างนี้ รวมถึงคุณสิระด้วยที่ทำในเรื่องของที่ดิน ลงพื้นที่ภูเก็ต เกาะช้าง แล้วที่ดินที่เชื่อว่าอาจจะมีการบุกรุกพื้นที่ป่าของสมาชิกพรรคเดียวกัน เป็น ส.ส.เหมือนกันทำไมไม่ตรวจสอบ นักข่าวเราต้องทำหน้าที่ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม

ตอนนั้นมีอารมณ์ไม่พอใจด้วยหรือไม่?

ไม่ถึงกับอารมณ์ เพียงแต่ว่าเราถามแล้วเขาตอบไม่ตรงคำถามเขาบ่ายเบี่ยง แล้วตรงนั้นเป็นพื้นที่โล่งกว้างเลยต้องมีเสียงดัง แล้วการถามบางทีนักข่าวแย่งกันพูด เราเลยใช้วิธีการชนะด้วยเสียง ออกมาเหมือนมีอารมณ์แต่จริงๆ ไม่มีอารมณ์เราก็ทำตามหน้าที่.

https://www.youtube.com/watch?v=PmSKuVQ-9G0