SHARE

คัดลอกแล้ว

ส.ส.ปารีณา ส่งหนังสือขอกรมป่าไม้ตรวจสอบแนวเขตใหม่ ชี้ครอบครองนับสิบปีไม่มีเคยมีใครแจ้งว่าผิด หวั่นชาวบ้านใกล้เคียงจะเดือดร้อนไปด้วย

ความเคลื่อนไหว หลังเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และ ส.ป.ก. เข้าตรวจสอบที่ดิน 1,706 ไร่ ในหมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ทำหนังสือลงลายมือชื่อถึงอธิบดีกรมป่าไม้ (นายอรรถพล เจริญชันษา) ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เรื่องขอให้ตรวจสอบเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตปฏิรูปที่ดิน ระบุว่า

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดราชบุรี

“ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในขณะนี้ว่าดิฉัน นางสาวปรีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีนั้น ดิฉันขอชี้แจงว่า ได้ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวโดยสุจริตและเปิดเผยเป็นเวลานับสิบปีแล้ว โดยมีลักษณะการทำประโยชน์เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการใด ตรวจสอบหรือแจ้งว่า ดิฉันกระทำผิด

ซึ่งจากการตรวจสอบตามที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่บริเวณที่อาจอยู่นอกป่าสงวนแห่งชาติ โดยหลักฐานที่ดำเนินการเป็นแผนที่ท้ายกฎกระทรวงฯ มีมาตรส่วน 1:400,000 และแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินมีมาตราส่วน 1:100,000 จึงขอให้กรมป่าไม้ และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตรวจสอบแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตปฏิรูปที่ดิน โดยละเอียดรอบคอบก่อนการดำเนินคดีใด ๆ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว นอกจากดิฉันยังมีราษฎรตำบางรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวด้วย จะได้รับความเดือดร้อนการกระทำโดยยังไม่มีการตรวจสอบเขตที่ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา”

ย้อนไทม์ไลน์สำคัญที่ดิน 1,706 ไร่

ขณะที่ ความเคลื่อนไหว ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. คณะกรรมการร่วม ประกอบด้วย ส.ป.ก., กรมที่ดิน, กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่ดินหมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เนื้อที่ 1,706 ไร่ ซึ่งเป็นฟาร์มไก่ ของน.ส.ปารีณา โดยเจ้าหน้าที่นำหมายศาลจังหวัดราชบุรี เข้าตรวจสอบ โดยมีนายภูมิพัฒน์ จำปาทอง ผู้ใหญบ้าน หมู่ 6 นำตรวจค้น

พบกิจการเขาสนฟาร์ม เนื้อที่ 690 ไร่ ซึ่งมีโรงเลี้ยงไก่ เนื้อที่ 46 ไร่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4 (1) ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่ เกิน 25 ไร่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 -15 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 -100,000 บาท

นอกจากนี้ เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 14  ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 –  50,000 บาท แต่ถ้ากระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 15 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท

ทั้งนี้ กรมป่าไม้ จะแจ้งความดำเนินคดี น.ส.ปารีณา กรณีเนื้อที่ 46 ไร่รุกป่าสงวนฯ ในวันที่ 27 พ.ย. นี้ ขณะที่ ส.ป.ก. แจ้งน.ส.ปารีณา ให้นำเอกสารมาชี้แจง ภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 4 ธ.ค. 62 โดยเบื้องต้นพบว่า การเสียภาษีดอกหญ้า (ภ.บ.ท.5) ที่น.ส.ปารีณา พูดถึง มีการเสียภาษีจริง 690 ไร่ ส่วนที่เหลือกว่า 1,000 ไร่ ส.ป.ก.บอกว่า ต้องไปชี้แจงเองว่าอยู่ในบริเวณใด.

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า