ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นำทีมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งชุดปฏิบัติการฉลามขาว ชุดปฏิบัติการป่าไม้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กอ.รมน.ตรัง ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมประมาณ 60 นาย โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ร่วมตรวจยึดคืนผืนป่า ตามแผน “ปฏิบัติการเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน”
ที่ดินดังกล่าว 2 แปลง อยู่ในพื้นที่ 2 อำเภอ รวมกว่า 240 ไร่ มีนายทุนเข้าบุกรุกครอบครอง โดยแปลงแรกบุกรุกทำนากุ้งและสวนปาล์มน้ำมัน อยู่ในพื้นที่เขตป่าชายเลน ตามมติคณะรัฐมนตรี และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลนคลองหวายดน ป่าชายเลนคลองสุโสะ และป่าชายเลนคลองกุเหร่า พื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน เนื้อที่ 81 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด
แปลงที่ 2 เป็น สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 159 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา อยู่ในเขตพื้นที่ป่าชายเลน ตามมติคณะรัฐมนตรี และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกะลาเส และป่าคลองไม้ตาย หมู่ที่ 3 ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ทั้งนี้ พบว่าสภาพแปลงพื้นที่กว่า 159 ไร่ นั้น มีการปลูกปาล์มเต็มพื้นที่อายุกว่า 10 ปี พบมีการลักลอบเข้ามาตัดผลผลิต ซึ่งอาจจะเป็นชาวบ้าน หรือนายทุนที่ลักลอบครอบครอง แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกตรวจยึด และเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ปะเหลียน และ สภ.สิเกา

โสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บอกว่า การตรวจยึดคืนพื้นที่ เป็นไปตามแผนการเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยจะมอบเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป พร้อมใช้นโยบายไม่ให้มีการเข้ามาบุกรุกพื้นที่ทั้งนายทุนรายใหม่และรายใหญ่อีก
ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงกัน คือการก่อสร้างอาคาร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง จ.ตรัง ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยตรัง ซึ่งพบว่ามีการก่อสร้างบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลน และป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกะลาเส ป่าคลองไม้ตาย หมู่ 3 ต.ไม้ฝาด โดยตั้งอยู่นอกเหนือจากพื้นที่ 1,700 ไร่ ที่ มทร.ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ใช้พื้นที่ เมื่อปี พ.ศ. 2535 จำนวน 21 ไร่ 3 งาน 59 ตารางวา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดี กับ มทร.ศรีวิชัยวิทยาเขตตรัง ตั้งแต่ปี 2552 แต่อัยการจังหวัดตรังสั่งไม่ฟ้อง โดยมองว่าขาดเจตนา ส่วนการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย จำนวน 2.5 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมดอกเบี้ยด้วยเป็นเงินรวมกว่า 5 ล้านบาท นั้น โดยทาง มทร.มีการขอไกล่เกลี่ยลดหย่อนดอกเบี้ย ซึ่งกรม ทช.ได้เสนอให้ทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาในรายละเอียด