รอรับแล้ว ! ผอ.รพ.สระบุรี เผยความพร้อมดูแลคณะของ “ตูน” 6-7 ธ.ค. นี้

ประเด็นคือ- เปิดใจ ผอ.รพ.สระบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 11 รพ.ที่จะได้รับเงินสนับสนุนจากตูน บอดี้สแลม เพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งขณะนี้ รพ.ได้รับงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุข ในการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ เป็นศูนย์โรคหัวใจ มะเร็ง และรักษาผู้ป่วยที่มีอาการซับซ้อน ซึ่งศูนย์นี้จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 61 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 พ.ย. 60) ที่ รพ.สระบุรี ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี นายแพทย์อนันต์ กมลเนตร ผอ.รพ. เปิดใจกรณีที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจาก ตูน บอดี้สแลม ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” เพื่อนำเงินช่วยเหลือซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาล 11 แห่ง โดยการวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา ไปสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กม. นั้น

นายแพทย์อนันต์ กมลเนตร ผอ.รพ.สระบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ทาง รพ.ได้เตรียมความพร้อมในการต้อนรับตูน บอดี้สแลม โดยเตรียมบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ซึ่งได้จัดทีมแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินเพื่อออกติดตามดูแลผู้ที่ร่วมในกิจกรรมนี้ ซึ่งจะรับผิดชอบตั้งแต่ จ.ชัยนาท ไปจนถึง จ.นครสวรรค์

โดยทีมจาก รพ.สระบุรี จะดูแลในวันที่ 6-7 ธ.ค. 60 ในด้านการเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน อุบัติเหตุรุนแรง หรือมีผู้บาดเจ็บ เจ็บป่วยระหว่างทาง พร้อมจัดทีมกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจในการออกกำลังกาย พร้อมทั้งจิตสำนึกในเรื่องของการเป็นจิตอาสา และจะมีการรณรงค์ในการรับเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาที่อยากร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

โดยทาง รพ.สระบุรี จะรวบรวมเงินที่ได้รับบริจาคนำไปมอบให้กับ ตูน บอดี้สแลม ในนามของประชาชนชาว จ.สระบุรี และที่สำคัญ ในเรื่องการอำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นสิ่งที่ทาง รพ.สระบุรีได้จัดเตรียมไว้รองรับสำหรับโครงการนี้

นายแพทย์อนันต์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า สำหรับ รพ.สระบุรี เป็น รพ.ขนาด 700 เตียง ทุกวันนี้ดูแลประชาชนใน จ.สระบุรี และจังหวัดใกล้เคียงอีก 8 จังหวัด เป็นรูปของเขตสุขภาพที่ 4 โดยมีประชาชนที่มาใช้บริการในแต่ละวัน 3,000 ราย เมื่อได้เงินจากโครงการก้าวคนละก้าว ทาง รพ.จะนำไปใช้นั้น เนื่องจากว่า รพ.สระบุรี มีภารกิจค่อนข้างมาก และทาง รพ.ก็ได้งบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุข โดยการสร้างอาคารขนาดใหญ่ เป็นศูนย์โรคหัวใจ มะเร็ง และรักษาผู้ป่วยที่มีอาการซับซ้อน ซึ่งศูนย์นี้จะแล้วเสร็จในเดือน กันยายน 2561 ซึ่งได้รับงบประมาณมาบางส่วนแล้ว

แต่ในขณะเดียวกันทาง รพ.ยังมีส่วนอื่นๆ ที่ยังต้องใช้ในการพัฒนาและสร้างศักยภาพต่อ คือการสร้างห้องผ่าตัด 17 ห้อง, หอผู้ป่วยหนัก หรือไอซียู 6 ห้อง, ศูนย์ส่องกล้อง เพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาโรคที่ยากและซับซ้อน เพื่อทำให้ประชาชนในเขต จ.สระบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงไม่ต้องเข้าไปรักษาในกรุงเทพฯ