วันที่ 9 ม.ค. 63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานตรวจสอบสภาพภูมิอากาศของยุโรป Copernicus Climate Change Service (C3S) ได้เปิดเผยรายงานการตรวจสอบสภาพอากาศทั่วโลกพบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในปี ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นรองเพียงปี ค.ศ. 2016 ซึ่งเป็นปีที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีญโญ่ โดยตามรายงานระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2019 น้อยกว่าปี ค.ศ. 2016 (เป็นปีที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีญโญ่ครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี) เพียง 0.04 องศาเซลเซียสเท่านั้น
นอกจากนี้เมื่อปีที่แล้ว ยังถือเป็นปีที่ร้อนที่สุดในยุโรปด้วย โดยในหลายพื้นที่ของยุโรปต่างเผชิญกับคลื่นความร้อนสูงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เช่น โปรตุเกสเผชิญอุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส, สเปนเผชิญอุณหภูมิสูงถึง 44.7 องศาเซลเซียส และฝรั่งเศสที่เผชิญอุณหภูมิสูงถึง 46 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ทางฝั่งเอเชียก็รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนเช่นกัน โดยเมื่อช่วงเดือน ส.ค. ปี 2019 ญี่ปุ่นเผชิญอุณหภูมิสูงถึง 41.1 องศาเซสเซียส ขณะที่เกาหลีใต้เผชิญอุณหภูมิสูงถึง 40.7 องศาเซลเซียส และที่ออสเตรเลียที่อุณหภูมิในบางพื้นที่พุ่งสูงถึง 49 องศาเซสเซียส