คนไทยในอู่ฮั่น รับวิตกกังวลมากอยากกลับประเทศ พร้อมรอรัฐบาลช่วย

https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/2650418361679604/

วันที่ 27 ม.ค. น.ส.วิภาวี เครือคำ คนไทยในเมืองอู่ฮั่น ให้สัมภาษณ์รายการ Workpoint Today ว่าตนทำงานที่ร้านอาหารและอยู่ในเมืองอู่ฮั่นมาประมาณ 5-6 ปี ที่ทำงานแจ้งเรื่องจะปิดเมืองเมื่อวันที่ 23 ม.ค. จึงกักตุนอาหารได้ทันไว้ประมาณ 10 วัน แต่ทราบว่าคนไทยส่วนหนึ่งตุนไม่ทันต้องออกไปซื้ออาหารแต่ก็เดินทางลำบากเพราะ รถยนต์ทั้งรถสาธารณะและส่วนตัวถูกห้ามวิ่งทั้งหมด โดยตอนนี้ยังพอมีซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่ยังมีสินค้า เปิดช่วง 11.30-17.00 น. ซึ่งบางคนต้องใช้วิธีปั่นจักรยานไปซื้อของ

คนไทยที่อู่ฮั่นมีการตั้งกรุ๊ปในวีแชต เพื่อสื่อสารกัน ความรู้สึกส่วนใหญ่ ตั้งแต่เริ่มมีเหตุการณ์ในกลุ่มถามกันว่าจะมีเครื่องบินมารับหรือไม่ การกินอยู่บางคนก็ไม่สะดวก แต่เรื่องสภาพจิตใจทุกคนหวาดกลัวติดโรค และข่าวสารมาทั้งข่าวจริงข่าวลวงเยอะมากยิ่งอ่านยิ่งฟัง ยิ่งเกิดความเครียดสะสม ทุกคนอยากกลับ ถ้ารัฐบาลประสานงานได้ก็อยากกลับและพร้อมจะถูกกักกันโรคไว้ก่อนเมื่อไปถึงไทย

สภาพเมืองอู่ฮั่น ที่เงียบราวเมืองร้าง ที่คุณวิภาวี ถ่ายคลิปส่งให้ทีมงาน Workpoint Today

“อยากกลับค่ะ เราอยู่ตรงนี้มีความเครียดสะสม และที่มากกว่าคือ พ่อแม่ที่บ้านและญาติ เพราะบางทีข่าวเยอะและรุนแรงมาก เขาก็ถามว่าเมื่อไรจะออกมา เป็นห่วงคนที่บ้านว่าเขาจะห่วงเรา และความเป็นอยู่ก็มีความเครียดสะสมว่าออกไปจะเจอเชื้อโรคไหม ของหมดแล้วจะทำอย่างไร”

“อยากฝากบอกว่าถ้าหาทางมารับได้ก็อยากให้มารับนะคะ ถึงช้าหน่อยพวกเราก็ยินดีค่ะ ยินดีที่จะรอและเข้าใจว่าการทำงานของรัฐบาลต้องมีขั้นตอน แต่ถ้ามีช่องทางก็อยากให้มารับพวกเราออกไปด้วยค่ะ”

ช่วงที่ผ่านมาทางสถานทูตมีการขอข้อมูลหน้าพาสปอร์ต และให้แสดงความจำนงในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไว้ แต่บอกเพียงว่ากำลังประสานงานกับรัฐบาลจีน ไม่ได้แจ้งว่าจะกลับได้วันไหน

สำหรับตนเองตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย ส่วนบรรยากาศแถวบ้านซึ่งปกติจะเป็นแยกไฟแดง ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงเรียนและโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดในอู่ฮั่นและข้างๆ ก็มีอีกโรงพยาบาล รถจะวิ่งเยอะ แต่ตอนนี้มีรถวิ่งเพียงแค่คันสองคันและพอมีชาวบ้านแถวนี้เดินเล่นอยู่นิดหน่อย

ด้านนายบดีภัค เกาสละ นักศึกษาไทย เล่าว่า ตอนนี้เงียบทั้งเมือง ต้องอยู่ในห้องทั้งวันตั้งแต่ปิดเมืองออกไปข้างนอกแค่วันเดียวที่ไปซื้อของมาตุนเอาไว้น่าจะได้ประมาณ 10-14 วัน

สำหรับตนอยู่ที่มหาวิทยาลัยหัวจง ซึ่งดูแลดีแม้จะไม่มีอาหารแจก แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตในมหาวิทยาลัยยังเปิด อย่างไรก็ตามยังต้องเสี่ยงกับการที่ของหมด เพราะมีคนไปรอซื้อของกัน ส่วนที่หมดเร็ว คือ อาหารแช่แข็ง ไข่

ตนเองก็อยากกลับไทยเพราะกังวลกับการแพร่ระบาดของโรค คุยกับครอบครัวก็เป็นห่วงอยากให้กลับไปเร็วๆ เชื่อว่าพ่อแม่ที่ไทยทุกคนคงเป็นห่วงลูกๆ ที่อยู่ที่นี่

ขณะเดียวกันยังมีนักศึกษาไทยในอู่ฮั่น ที่โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยันต้องการกลับประเทศไทย พร้อมแชร์ข่าวที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายังไม่มีคนไทยขอกลับ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10219207592553991&set=a.2912950896206&type=3&theater

ขณะที่ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร นักศึกษาไทยที่โพสต์ภาพเมืองอู่ฮั่นในวันแรกๆ หลังปิดเมืองและมีการแชร์ต่อกันไปมากมายได้ โพสต์เล่าสถานการณ์ และทิ้งท้ายว่า “คนไทยที่นี่ยังคงแข็งแรงและรอฟังข่าวดีจากทางการไทย และเป็นกำลังใจให้ทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนผ่านอุปสรรคตรงนี้ไปโดยเร็วครับ”

https://www.facebook.com/injusticez.black/posts/10157049442258100