ทีมแพทย์โรงพยาบาลจินหยินถานในเมืองอู่ฮั่นร่วมมือกับมหาวิทยาลับเซี่ยงไฮ้เจียวทงและโรงพยาบาลรุ่ยจินในมหานครเซี่ยงไฮ้ร่วมกันศึกษาผู้ป่วย 99 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอู่ฮั่น ก่อนจะตีพิมพ์ผลในวารสาร The Lancet เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ผลการศึกษาพบว่าผู้ชายเสี่ยงต่อการรับเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่มากกว่าผู้หญิง
ในจำนวนผู้ป่วย 99 คนนี้ พบว่ามีผู้ป่วยชาย 67 คน และผู้ป่วยหญิง 32 คน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอู่ฮั่นตั้งแต่วันที่ 1-20 มกราคม 2563
ในงานวิจัยเขียนว่า “เราพบว่าจำนวนผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เป็นชายมากกกว่าผู้ป่วยหญิง ขณะที่ไวรัสซาร์หรือไวรัสเมิรส์ก็พบการติดเชื้อในชายมากกว่าผู้หญิงเช่นเดียวกัน”
โดยสันนิษฐานว่าการที่ผู้หญิงอ่อนไหวต่อไวรัสนี้น้อยกว่าผู้ชายเพราะได้รับการคุ้มกันจากโครโมโซมเอ็กซ์ และฮอร์โมนเพศที่มีบทบาทในการสร้างและปรับภูมิคุ้มกัน
ก่อนหน้านี้มีการสังเกตขั้นต้นว่าผู้ชายที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้วจะมีความเสี่ยงในการติดไวรัสตัวดังกล่าวมากกว่าผู้หญิง ซึ่งงานศึกษานี้ก็ออกมาสอดคล้องกันโดยมีกลุ่มตัวอย่าง 99 คน
โดยผู้ป่วยจำนวนครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างล้วนแต่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน เป็นต้น ซึ่งจาก 99 คนนี้มีอัตราการเสียชีวิต 11% ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่น้อยกว่าที่คณะแพทย์จากโรงพยาบาลเดียวกันเคยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยโคโรนาจำนวน 41 คน ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิต 15%
นอกจากนี้ยังพบว่ามีการติดเชื้อแบบกระจุกตัวถึง 49% ทั้งที่รัฐบาลจีนเพิ่งจะแถลงว่ามีการติดเชื้อระหว่างคนสู่คนในวันที่ 21 มกราคม 2563
ผลการวิจัยยังเตือนว่าการระบุตัวคนไข้ให้ได้อย่างรวดเร็วนั้นมีความสำคัญ เนื่องจากผู้ป่วยหลายคนรักษาไม่ทันการจนอวัยวะล้มเหลว โดยร้อยละ 17 มีอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน ปอดอยู่ในสภาวะย่ำแย่ ขณะที่ร้อยละ 8 พบอาการถุงลมปอดได้รับบาดเจ็บ และร้อยละ 3 มีอาการไตวายหรือเสียหนัก
สุดท้ายผู้วิจัยยังย้ำว่าควรมีการศึกษาเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากงานวิจัยนี้ยังมีกลุ่มตัวอย่างเป็นเพียงผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยจากโรงพยาบาลอู่ฮั่นเท่านั้น