SHARE

คัดลอกแล้ว

 

ขอบคุณภาพ : วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา

วันที่ 3 ก.พ. นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้ญัตติเรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณามีมติให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พ้นจากการเป็นกรรมาธิการ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 108(5) โดยตนเป็นผู้เสนอ และมี ส.ส.รับรอง 51 คน ได้ปรากฏในระเบียบวาระการประชุมสภาวันพุธที่ 5 ก.พ. แล้ว คาดว่าจะมีการขอเลื่อนญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณา ก่อนวันที่จะมีการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน
.
ในญัตติดังกล่าวมีสาระสำคัญว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ได้กระทำการตรวจสอบการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในเขตพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยไว้วางพระราชหฤทัยให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินไปแล้ว
.
ดังที่ปรากฏตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 35/2562 ว่า “การถวายสัตย์ปฎิญาณต่อพระมหากษัตริย์ของคณะรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญฝ่ายบริหารในความสัมพันธ์เฉพาะกับพระมหากษัตริย์” และปรากฎในส่วนท้ายว่า “หลังจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ปฎิญาณจบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้น้อมนำเป็นแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดิน”


ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 62 เวลา 9.00 น.นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรีได้เข้ารับพระราชดำรัสในโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฎิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ซึ่งพระราชทานเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งทรงลงพระปรมาภิไธย โดยเข้ารับต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ชั้น 5 ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล การถวายสัตย์ปฎิญาณต่อพระมหากษัตริย์ดังกล่าวจึงไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใด
.
แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ได้อาศัยสถานะความเป็นประธานคณะ กมธ. ตรวจสอบ แม้ในที่ประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 15 ม.ค. กมธ. 8 คน ซึ่งเป็นเสียงข้างมากได้มีมติให้ยุติการตรวจสอบ แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังฝ่าฝืนที่จะดำเนินการต่อไป จึงไม่สมควรที่จะปฎิบัติหน้าที่ประธาน กมธ.และเป็น กมธ.อีก

ภาพวันที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นสภาขอเปิดญัตติด่วนถอด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จากกรรมาธิการ ป.ป.ช.


โดยเหตุที่ได้ปฎิบัติหน้าที่ไปโดยไม่มีอำนาจตรวจสอบ และ ได้กระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อที่ 90 (22) และฝ่าฝืนมติ กมธ.เสียงข้างมาก
.
ตนจึงเสนอญัตติด่วนดังกล่าวเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณามีมติให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พ้นจากตำแหน่งประธานและการเป็น กมธ.

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวกับ Workpoint Today เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ว่า ก่อนหน้าวันที่อ้างว่ามีการลงมติ 15 ม.ค. เคยมีการเสนอโหวตยกเลิกเรื่องนี้มาแล้วซึ่งตนไม่เห็นด้วย แต่ก็ลูกผู้ชายพอจึงยอมให้โหวต ตอนนั้นคุณไพบูลย์ เข้ามาแล้ว (เข้ามาเป็น กมธ. แทนนายดล เหตระกูล จากพรรคชาติพัฒนา) ก็เสนอ พอโหวตเขาก็แพ้ เพราะคุณจารึก ศรีอ่อน ไม่โหวตด้วย (จารึก คือ 1 ใน 4 ส.ส.ที่อนาคตใหม่ขับออกจากพรรค ตอนนั้นยังไม่ไปสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท)
.
เขาแพ้ญัตตินี้ก็ตกไป กมธ.ก็ทำเรื่องอื่นต่อ จนวันที่ 15 ม.ค. ที่มีวาระกลับมาติดตามเรื่องถวายสัตย์ คุณไพบูลย์ ก็เสนอให้โหวตอีกและทำเกินหน้าที่ ทำตัวเป็นประธานเลย เขาเตรียมมาแล้ว วันนั้นคุณจารึก ไปเข้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เป็นฝ่ายรัฐบาลแล้ว คุณไพบูลย์ เสนอโหวตใหม่ พอตนยังไม่ดำเนินการให้ก็ยกมือสอบถามทีละคนทำตัวเป็นประธาน แล้วก็ได้ 8 เสียง ตนก็ยืนยันว่าญัตตินี้ตกไปแล้ว เมื่อไม่ได้แล้วจะไปยอมให้ได้อย่างไร จะเอาเสียงข้างมากลากไปได้อย่างไร

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่า ไม่กังวลอะไรเลยกับการโหวตให้พ้นตำแหน่ง เพราะไม่ได้ยึดติด แม้ตอนจัดตั้งรัฐบาล ที่พรรคมี 10 เสียง มีคนติดต่อให้เข้าร่วมรัฐบาลให้หัวละ 30 สิบคน 300 ให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้วย ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะรีบคว้าไป แต่ตนไม่เอา
.
ถ้าจำกันได้ตอนนั้นพร้อมจะยก ส.ส. 10 คน ไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคภูมิใจไทย ให้มาร่วมกันตั้งรัฐบาลและให้จำนวน ส.ส.นี้ไปบวกโควตารัฐมนตรีให้เขาไปเลยด้วยซ้ำ
.
“ตอนนั้นยังไม่สนใจเลย การเป็นตำรวจ การไปนาแกไปปราบคอมนิวนิสต์ก็สมัครใจไป เพราะฉะนั้นไม่มีความหมายเลย จะตายก็ได้ จะเป็นอะไรก็ได้”
.
“เพราะฉะนั้นจะมาขู่ผมเหรอ ถอดถอนผมเหรอก็ว่ากันไปเด้ มึงไม่อายชาวบ้านเขาก็ว่ากันไป”

ประธาน กมธ. ป.ป.ช. ยืนยันว่าตนทำหน้าที่ทั้งในสภาและ กมธ.ให้ประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว จะมาใช้เสียงข้างมากลากไปถูกที่ไหน เขาอ้างข้อบังคับ 108 (5) เมื่อสภาเห็นควรให้ออก เลยมาจับช่องว่างว่าเสียงในสภามากกว่า แต่ไม่ได้คำนึงว่าใครถูกใครผิด
.
“ใช้จริงก็ไม่สนว่ามาอย่างไรก็ว่าไป เดี๋ยวจะล่อคืนในสภา ให้ประชาชนเห็นว่าใครผิดใครถูก ออกก็ออกสิ จะต้องไปง้อไปถอนคำพูดอะไร ถ้าปลดผมไม่ต้องทำงานผมก็สบายขึ้น”
.
วิธีรับมือที่เตรียมไว้คือ จะยืนยันว่า ประธาน กมธ.เป็นโควตาพรรคเสรีรวมไทย เมื่อโหวตออกพรรคก็จะเสนอชื่อเข้ามาใหม่ มาใหม่ก็ว่าใหม่ ถ้าคุณชวน ทำอย่างนี้ (บรรจุญัตติให้โหวต) เดี๋ยวก็จะเสนอปลดคุณชวนในสภา แล้วอย่างนี้ประชาชนจะได้อะไรขึ้นมา

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า