“ลูกตาล ชโลมจิต” แถลงกลับยืนยันไม่ได้หนีหนี้ ไม่ได้ทำร้ายร่างกายใคร

“ลูกตาล ชโลมจิต” เผยไม่ได้หนีหนี้ ไม่ได้ทำร้ายร่างกายใคร ยืนยันตนเป็นผู้ถูกกระทำ หลังเจอเจ้าหนี้โหดทวงเงิน 1,400,000 บาท เผยที่ผ่านมาผ่อนส่งตลอดจนครบ ตอนนี้แจ้งความแล้วข้อหาผิดพรบ.ทวงหนี้

ออกมาแถลงตอบกลับแล้วสำหรับสาวลูกตาล ชโลมจิต ที่ก่อนหน้านี้ถูกเจ้าหนี้บุกทวงหนี้ 1.4 ล้านบาท ถึงฟิตเนส ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินหนีและขึ้นรถเบนซ์คันหรูจากไป ล่าสุดเจ้าตัวและทนายได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบกลับว่าตนจ่ายหนี้ทุกเดือนแต่หนี้ไม่ลดเลยตนเป็นฝ่ายถูกกระทำมากกว่า

“ก่อนหน้านี้ตนอยากขยายกิจการ ก็ไม่อยากไปกู้หนี้ยืมสินใคร บวกกับตนซื้อเพชรเก็บไว้ ก็เลยคิดว่าเอาเครื่องเพชรมาขายลงทุนดีกว่า ก็เลยไปซื้อเพชรของร้านคู่กรณี วันที่ซื้อเขาก็บอกว่ามันสามารถฟัก 10-15% ขายคืนได้ พอไปถึงมูลค่าเพชรของเราก็ประมาณเกือบ 2 ล้าน ซึ่งมันเป็นจำนวนเงินหนึ่งล้านหกแสนบาท แต่ลูกตาลต้องการใช้เงินประมาณล้านห้าแสนบาท ก็บอกเขาขอขายคืนได้ไหม แต่อีกฝ่ายบอกเก่าแล้วให้ทำเป็นเหมือนเงินกู้แทน ตนก็โอเคก็เอาทรัพย์สินเครื่องเพชรหนึ่งล้านหกแสนบาทไปเป็นหลักประกัน เขาก็บอกอีกว่าตอนนี้เพชรตก ขอหลักประกันเพิ่ม พอดีตนมีสมุดมอเตอร์ไซค์อยู่คันหนึ่งราคาหกแสนกว่าบาทก็เอาไปค้ำประกันเพิ่ม และก็ได้เงินมาล้านสี่แสนบาท แล้วก็ผ่อนมาเดือนล่ะ 7 หมื่นบาทตลอดแต่พอถามว่าตอนนี้ยอดเหลือเท่าไหร่อีกฝ่ายบอกว่าเหลือเท่าเดิมที่ผ่านมาผ่อนแค่ดอกเบี้ย อีกฝ่ายทำเสียชื่อเสียงอย่างมากทำให้คนอื่นๆ เชื่อว่าตนหนีหนี้จริงๆ หลังจากนี้จะฟ้องหมิ่นประมาทและให้อยู่ในขั้นตอนของกฏหมาย

ทางด้านทนายเผย มีหลักฐานหนังสือเงินกู้ 3 ฉบับ ซึ่งในเอกสารมีหลักฐานระบุการโอนเงินคืน ใช้หนี้แล้วแต่ต้นยังเท่าเดิม โดยได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่สน.หัวหมาก เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 62 ซึ่งหลังจากนั้นก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง ทนายให้ระงับการจ่ายหนี้ เพราะสรุปยอดเงินยังไม่จบ ถ้าคู่กรณีติดใจก็เชิญไปฟ้องที่ศาล เพราะถ้าศาลสั่งเท่าไหร่ ทางลูกตาลก็ยินดีจ่าย”