ฮุนเซน เยือนปักกิ่งยืนยันมั่นใจรัฐบาลจีนควบคุมโคโรนาไวรัสได้

ขณะที่สถานการณ์ไวรัสโคโรน่ายังไม่ทันคลี่คลายดี หลายประเทศปิดการไปมาหาสู่กับจีนและเตือนประชาชนให้เดินทางเฉพาะกรณีจำเป็น แต่นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชากลับเดินทางไปกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อแสดงถึงความไว้เนื้อเชื่อใจของฮุนเซนต่อรัฐบาลจีนว่าสามารถควบคุมโรคได้แน่นอน

สำนักข่าวซินหัว สื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่านายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนว่าที่ตัดสินใจเดินทางมาจีนเพราะต้องการจะแสดงความสนับสนุต่อจีนในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

สื่อจีนยังรายงานว่าฮุนเซนอยากเดินทางไปอู่ฮั่นด้วยตัวเองด้วยซ้ำ แต่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนปฏิเสธอย่างนอบน้อมว่าอู่ฮั่นกำลังวุ่นกับการทุ่มสรรพกำลังในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หากเยือนอู่ฮั่นในเวลานี้อาจไม่สะดวกนัก

ก่อนหน้านี้ระหว่างที่อยู่กัมพูชา ฮุนเซนเคยถูกนักข่าวถามว่าประชาชนต้องใส่หน้ากากไหม ฮุนเซนตอนว่า “นายกยังไม่ใส่เลย คุณจะใส่ทำไม” พร้อมทั้งบอกว่าการที่คนตื่นตระหนกนั้นส่งผลเสียยิ่งกว่าไวรัสระบาดจริง ๆ เสียอีก

ที่ผ่านมากัมพูชากับจีนมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แน่นแฟ้น สีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศของกัมพูชาเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าที่เพิ่งสร้างใหม่ในเมืองเกือบทั้งหมดเต็มไปด้วยตัวอักษรจีน สะท้อนว่าการลงทุนส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน อาจเป็นเหตุผลที่รัฐบาลกัมพูชาไม่ระงับการเดินทางเข้า-ออกจีน และยังเดินทางไปให้กำลังใจถึงที่

สีจิ้นผิงก็กล่าวว่าสัมพันธไมตรีที่กัมพูชามีต่อจีนแสดงถึงมิตรแท้ที่หลายประเทศควรเอาอย่าง

ก่อนหน้านี้เมื่อต้นสัปดาห์ รัฐบาลปากีสถานประกาศกลับมาเปิดไฟลท์บินจีน-อิสลามาบัด นายซาฟาร์ มีร์ซา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านสาธารณสุขของปากีสถานให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.  ให้เหตุผลว่าเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจีนจะสามารถตวบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้

นายแพทย์อาธาร์ นีอาซ รานา ผอ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงอิสลามาบัด ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว AFP ว่าหากไวรัสโคโรนาติดมาถึงปากีสถานอาจจัดการไม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากพอ เพราะปากีสถานขาดการลงทุนทางการแพทย์มาเกือบสิบปีแล้ว

ปัจจุบันปากีสถานยังไม่พบผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ชาวปากีสถานที่อยู่ในจีน 2 รายติดเชื้อไวรัสนี้แล้ว

กรณีนี้สื่อต่างประเทศอย่างสำนักข่าว CNA ตั้งข้อสังเกตว่าจีนมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจมหาศาลต่อปากีสถานจากโครงการให้กู้ยืมเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสานต่อโครงการ One Belt On Road ของจีน