มิ่งขวัญ คืนเวทีอภิปรายในสภา แนะวิธีรัฐบาลหางบประมาณ

วันที่ 24 ก.พ. เวลา 20.55 น. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเรื่องเศรษฐกิจ โดยมุ่งไปที่การเสนอแนวคิดเป็นหลัก
.
นายมิ่งขวัญ เริ่มด้วยการพูดถึงเงินฝากของคนไทยที่มีน้อย ปัญหาหนี้ครัวเรือน การเลิกจ้าง การปล้น-ชิงทรัพย์ การฆ่าตัวตาย
.
พร้อมอธิบายเรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่ไปเชื่อมโยงกับการครอบงำและผูกขาด โดยปี 2558 ไทยอยู่อันดับ 11, ปี 2559 ขึ้นมาอันดับ 3 และปี 2561 ขึ้นเป็นอันดับ 1 จึงฝากไปยังนายกรัฐมนตรีและทีมเศรษฐกิจว่าอย่าหลอกตัวเอง

นายมิ่งขวัญ ยังอภิปรายถึงเรื่อง การค้าออนไลน์ว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนอยากให้รัฐบาลหันกลับมาสนใจเรื่องนี้ อยากเตือนรัฐบาลว่า นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่รัฐบาลยังควบคุมไปไม่ถึง ปี 2562 มูลค่าการค้ามากถึงกว่า 3.8 ล้านล้านบาท เราไม่สามารถเก็บภาษี ไม่สามารถควบคุมการนำเข้าและส่งออกได้ ซึ่งมูลค่านี้มากกว่างบประมาณแผ่นดิน 3.2 ล้านล้านบาทต้องรีบปรับกฎหมายให้เร็วที่สุด
.
การท่องเที่ยว ซึ่งสร้างรายอันดับ 1 ให้ประเทศ นักท่องเที่ยวประมาณ 39.7 ล้านคน สร้างรายได้ 1.9 ล้านล้านบาท แต่การซื้อตั๋ว จองโรงแรมและอื่นๆ แม้กระทั่งรถทัวร์ ช้อปปิ้ง และสะดวกซื้อ ใช้จ่ายผ่าน Alipay คำถามคือเราได้เงินเข้าประเทศจริงหรือเปล่า การโอนเงินนี้เราควบคุมได้หรือไม่
.
เขายังเสนอแนวคิดให้ประเทศไทยเป็นเมืองสินค้าปลอดภาษี อันดับ 1 ของโลก โดยยกตัวอย่าง ดูไบ เมืองที่มีแต่ทะเลทราย แต่เศรษฐกิจเติบโตได้มหาศาล เกิดจากการกำหนดให้เป็นเมืองปลอดภาษี เขาเชื่อว่าถ้าไทยทำได้จะเกิดเสน่ห์ดึงดูดคนจากทั่วโลกเข้ามา การท่องเที่ยวจะเพิ่มอีก 5 เท่าตัว เป็น 10 ล้านล้านต่อปี เราต้องหาจุดขายของเรา
.
นายมิ่งขวัญ ยังกล่าวถึงเรื่องของ เรื่องสตรีทฟู้ดที่เป็นจุดขายของไทยว่า แม้ตนเห็นด้วยกับการจัดระเบียบทางเท้า แต่ช่วยจัดการคนคิดบ้าๆ ด้วย เพราะไม่นานมานี้เราไปกวาดทิ้งหมดเลย 8 แสนเจ้า กระทบชีวิตกว่า 4 ล้านคน ทำลายเสน่ห์อับดับ 1 โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การจัดระเบียบต้องจัดที่หาถนน และรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมให้ได้ด้วย
.
ส่วนแนวคิดเรื่องการลดค่าไฟ เขาเสนอให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับซื้อไฟฟ้าจากโรงงานที่ผลิต 100% จากเดิมที่ซื้อแค่ 60% แล้วส่วนที่เหลือทิ้งไปเปล่าๆ โดยส่วนเกินที่เดิมไม่ได้ซื้อให้เจรจาซื้อในราคาที่ถูกกว่า ถ้าทำได้จะทำให้ค่าไฟลดลงไปได้ 25-30%