Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เว็บไซต์เดอะ การ์เดียน ได้สัมภาษณ์นายโจนาธาน ดี ควิก ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด อดีตประธานองค์กร “โกลบัล เฮลธ์ เคาน์ซิล” (Global Health Council) และผู้ประสานงานระยะยาวขององค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดทั่วโลกของโรคโควิด-19 และสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด

 

 

ถาม: ดูเหมือนโรคโควิด-19 กำลังจะเข้าสู่ภาวะการระบาดใหญ่ เช่นเดียวกับที่ WHO เคยให้คำนิยามไว้ แม้จะยังไม่มีการประกาศก็ตาม แล้วอะไรคือกรณีเลวร้ายที่สุดหรือดีที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้?

ตอบ: กรณีที่ดีที่สุดคือ การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ในจีนสามารถควบคุมได้ สามารถยับยั้งการระบาดในประเทศต่างๆ ได้ และการระบาดไปยังประเทศหรือทวีปใหม่ๆ ไม่เกิดขึ้น หรือมีน้อยมาก ส่วนกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือ การระบาดแพร่ขยายไปทั่วโลก จนในที่สุดโรคดังกล่าวกลายเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งหมายถึงเป็นโรคที่เกิดขึ้นอย่างถาวรในกลุ่มประชากรมนุษย์

ถาม: แล้วคุณคิดว่ามันมีแนวโน้มจะเป็นแบบไหนมากกว่า?

ตอบ: กรณีที่เลวร้ายที่สุดน่าจะมีแนวโน้มมากกว่า ตอนนี้เราพบการแพร่ระบาดแล้วใน 6 ทวีป ผู้ติดเชื้อส่วนหนึ่งไม่แสดงอาการ และเป็นการติดต่อระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ โดยในอิหร่าน เกาหลีใต้ และอิตาลี จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นมาก และหากมันเข้าสู่ภาวะการระบาดใหญ่ คำถามก็คือ มันจะรุนแรงแค่ไหน และจะสิ้นสุดเมื่อใด ขณะที่อัตราผู้เสียชีวิตอยู่ที่เพียงร้อยละ 2 ซึ่งน้อยกว่าโรคซาร์ส แต่ก็มากกว่าไข้หวัดถึง 20 เท่า และยังคงมีหลายอย่างที่เราไม่รู้

ถาม: ถ้ากรณีที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นจริง เราสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อลดผลกระทบของมันให้เหลือน้อยที่สุด?

ตอบ: เราสามารถเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เพื่อดูแลประชาชน ออกมาตรการควบคุมการเดินทาง และสร้างความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในแนวหน้าผ่านการตรวจร่างกายแล้ว และปฏิบัติงานอย่างรอบคอบ และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อกลับบ้าน โดยไม่ผ่านการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชากรส่วนใหญ่ของโลกยังไม่ทราบหรือไม่ตระหนักถึงอันตรายของไวรัสนี้

ถาม: คุณเคยบอกว่า เวลาและความเชื่อใจมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการภาวะการระบาดใหญ่ที่ดี มันหมายว่าอย่างไร?

ตอบ: ความล่าช้าระหว่างการสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ที่อยู่ในรูปแบบของโรคติดต่ออุบัติใหม่ ของเจ้าหน้าที่ในแนวหน้า และการเดินทางของข้อมูลไปยังผู้มีอำนาจในการต้ดสินใจ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะโรคระบาดมักขยายตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้น หากเราสามารถรับมือกับการระบาดได้ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ส่วนความเชื่อใจนั้น การเผยแพร่ข้อมูลที่มีหลักฐานและมีความเป็นกลาง เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เช่นเดียวกับการไม่สร้างความเข้าใจที่ผิดๆ เพราะนั่นอาจนำไปสู่การไม่ให้ความร่วมมือ

ถาม: หากพิจารณาจากรายงานต่างๆ เราจะมีวัคซีนรักษาโรคโควิด-19 ที่ผ่านการอนุมัติ ภายในระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง คุณคิดว่าจะเกิดภาวะที่เรียกว่า “การลังเลและปฏิเสธวัคซีน” หรือไม่?

ตอบ: หลักฐานต่างๆ ชี้ว่า การลังเลและปฏิเสธวัคซีนจะลดลง หากพบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากการระบาดสิ้นสุดลง ระดับของการรับวัคซีนอาจขึ้นอยู่กับว่า คนทั่วไปยังคงตระหนักถึงการระบาดที่เคยเกิดขึ้นมากเพียงใด ในสหรัฐฯ กว่าร้อยละ 20 ของคนยุค “เจนวาย” หรือ “มิลเลเนียลส์” เชื่อว่าวัคซีนเป็นสาเหตุของอาการออทิสติก ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิด ขณะที่ในยุคนี้ เรามักต้องจ่ายเงินเพื่ออ่านข่าวจริง ขณะที่เราได้ “เฟคนิวส์” มาแบบฟรีๆ

ถาม: จริงหรือไม่ที่จีนสามารถผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้แล้ว?

ตอบ: เท่าที่ทราบตอนนี้มีแค่ “โมเดอร์นา” (Moderna) บริษัทยาในสหรัฐฯ ที่มีวัคซีนโควิด-19 สำหรับการทดสอบกับมนุษย์ ในเดือนเมษายนนี้ ส่วนบริษัทยาในจีนยังถือเป็นหน้าใหม่ในตลาดวัคซีนโลก แต่มีบริษัทอย่างน้อย 1 แห่ง คือ “โคลเวอร์ ไบโอฟาร์มาซูติคัลส์” (Clover Biopharmaceuticals) กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนโควิด-19

 

 

ถาม: เชื่อกันว่าโควิด-19 มีต้นกำเนิดมาจากตลาดสด หรือตลาดค้าขายสัตว์ในจีน เราควรสั่งปิดตลาดในลักษณะดังกล่าวหรือไม่?

ตอบ: ไม่จำเป็น รัฐบาลจีนเคยพยายามปิดตลาดหลังเกิดโรคซาร์สมาแล้ว กลับกลายเป็นว่ายิ่งทำให้เกิดการค้าขายที่ผิดกฎหมาย สิ่งที่ต้องทำคือ การกำหนดมาตรการควบคุมที่ดีกว่าเดิม และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพราะการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอและมาตรการคัดแยกประชากรสัตว์ปีก สามารถช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในสัตว์เหล่านั้นได้

ถาม: การแพร่ระบาด เช่นในกรณีของโควิด-19 เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จริงหรือไม่?

ตอบ: ในมุมมองด้านชีววิทยา การแพร่ระบาดของเชื้อโรคชนิดใหม่ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ถือว่าเกิดขึ้นผิดที่และผิดเวลามากที่สุด อู่ฮั่นเป็นเมืองใหญ่และเมืองชุมทาง และพบผู้ติดเชื้อรายแรกก่อนวันตรุษจีนไม่นานนัก ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวจีนจำนวนมหาศาลกำลังเดินทางเพื่อไปเยี่ยมครอบครัว

ถาม: เมื่อมองในแง่ของการควบคุมการระบาด การที่มันเกิดขึ้นในจีนถือเป็นเรื่องดีหรือไม่?

ตอบ: เมื่อ 5 เดือนก่อน เราได้จัดทำดัชนี “โกลบัล เฮลธ์ เซเคียวริตี้” (Global Health Security) เพื่อวัดผลการเตรียมความพร้อมการรับมือการระบาดครั้งใหญ่ของประเทศต่างๆ ใน 6 มิติ ได้แก่ การป้องกัน การตรวจหา การตอบสนอง ระบบสาธารณสุข ภาวะแวดล้อมที่มีความเสี่ยง และแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องตามมาตรฐานโลก ซึ่งพบว่าไม่มีประเทศใดที่มีความสมบูรณ์ทั้ง 6 มิติ จีนได้คะแนนดีในมิติด้านการตรวจหาและการตอบสนอง แม้ปัจจุบันจะเกินความสามารถในการรองรับของระบบสาธารณสุขของจีนแล้วก็ตาม แต่จีนก็มีจุดอ่อนด้านการป้องกัน โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยของอาหาร

 

 

ถาม: มีเรื่องไหนที่เราควรเร่งทำบ้าง?

ตอบ: ประเทศที่มีความพร้อมสำหรับการรับมือการระบาดครั้งใหญ่ พบว่ามีน้อยกว่า 1 ใน 3 ของประเทศทั้งหมดที่พบผู้ติดเชื้อ นั่นทำให้ประชากรส่วนใหญ่ของโลกตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งอาจหมายถึงเราทุกคนด้วย ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในฐานะผู้นำทุกคน ทั้งในภาครัฐบาลและเอกชน และทั้งระดับรากหญ้าไปจนถึงผู้นำสูงสุด

ถาม: หน่วยงานด้านสาธารณสุขระดับโลกยังคงมีความจำเป็นต่อการจัดการโรคระบาดทั่วไปหรือไม่ และนี่คือหน้าที่ของ WHO หรือไม่?

ตอบ: หน่วยงานด้านสาธารณสุขระดับโลกยังคงมีความจำเป็นอยู่ ความก้าวหน้าต่างๆ ที่เราเคยกล่าวถึงจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าปราศจากการมีส่วนเกี่ยวข้องของ WHO แต่ WHO ก็สามารถทำได้เท่าที่ชาติสมาชิกจะยินยอมให้ทำ และ WHO เองก็ได้รับเงินสนับสนุนลดลง นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2008

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า