เด็กถูกเบ็ดเกี่ยวหัวไม่กล้าบอกแม่ ทนนอนปวดทั้งคืนจนเช้า ครูรีบพาส่ง รพ.

ประเด็นคือ – หลังเลิกเรียนเด็กชายวัย 9 ขวบ ได้นำเบ็ดฝรั่งไปตกปลาในชลประทานข้างๆ หมู่บ้าน แต่ยังใช้ไม่คล่อง ทำให้เบ็ดเกี่ยวที่ศีรษะทะลุผิวหนังจนลึกถึงเงี่ยงเบ็ด กลับมาบ้านไม่กล้าบอกแม่กลัวถูกด่า ทนนอนปวดศีรษะจนเช้ามาโรงเรียน ครูจึงพามาผ่าตัด

วันที่ 15 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ผักหวานป่า มะนาวแป้นปราสาท” ได้โพสต์ภาพนักเรียนชายคนหนึ่งถูกเบ็ดเกี่ยวที่ศีรษะ พร้อมระบุข้อความว่า “ครูครับช่วยผมด้วย !! เลิกเรียนไปตกปลาโดนเบ็ดเกี่ยว นอนทรมานอยู่บ้านทั้งคืนถึงเช้า…ได้ไงเนี่ย !!!”

ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อขอข้อมูล พบว่า ผู้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นคุณครู ส่วนเด็กเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เอาเป็นว่าแค่เป็นครูประจำชั้นก็พอ พร้อมเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เด็กที่ถูกเบ็ดเกี่ยวที่ศีรษะ อายุ 9 ขวบ อยู่บ้านโคกเบง ต.โคกสะอาด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เรียนอยู่ชั้น ป.4 ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนที่ตนเองสอนอยู่

จากการสอบถามเด็ก ได้ความว่า เมื่อเย็นวันที่ 14 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา หลังเลิกเรียนได้นำเบ็ดฝรั่งไปตกปลาในชลประทานข้างๆ หมู่บ้าน แต่ด้วยความที่ยังใช้ไม่ค่อยคล่อง เหวี่ยงไปผิดจังหวะทำให้เบ็ดเกี่ยวที่ศีรษะบริเวณท้ายทอย ทะลุผิวหนังจนลึกถึงเงี่ยงเบ็ด ดึงออกไม่ได้ ถ้าดึงออกจะเจ็บมาก จึงตัดสินใจตัดสายคันเบ็ดและกลับบ้าน

เมื่อมาถึงบ้านพบยายกำลังทำกับข้าวอยู่จึงบอกยาย แต่ยายไม่ได้สนใจอะไรหรืออาจจะไม่รู้ว่ามีเบ็ดเกี่ยวติดที่ศีรษะก็ได้ และเด็กก็ไม่กล้าบอกแม่ กลัวแม่ด่า จึงนำเสื้อคลุมศีรษะไว้ และนอนตะแคง ทนปวดทั้งคืนจนถึงเช้า

จนกระทั่งตอนเช้าวันนี้ (15 พ.ย. 60) เวลาประมาณ 08.00 น. เมื่อมาถึงโรงเรียนก็ไม่กล้าบอกครู แต่เพื่อนนักเรียนมาบอกแทน จนคุณครูเรียกมาสอบถามและนำตัวส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอให้หมอผ่าตัดนำเบ็ดออก

คูณครูกล่าวต่อไปว่า เมื่อเย็นตอนเลิกเรียน แม่ของเด็กชายบอกว่า ไม่ทราบเรื่องว่าลูกชายถูกเบ็ดเกี่ยวที่ศีรษะ เพราะเด็กปกปิดไว้ไม่ยอมบอก แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ และก็ไม่ทราบว่าแม่เขาคุยกับลูกว่าอย่างไร

อย่างไรก็ตาม คุณครูอยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ถึงเด็กนักเรียนและผู้ปกครอง ทั้งเรื่องอันตรายจากการใช้เบ็ดฝรั่ง จนถึงเรื่องของการเฝ้าระวังป้องกันเด็กจมน้ำ เพราะอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ตนไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กๆ หรือกับใครก็ตาม

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก: ผักหวานป่า มะนาวแป้นปราสาท