
วันที่ 5 มี.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ว่า วานนี้ (4 มี.ค.) ได้หารือกับผู้แทนของโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปดังนี้ คือ จากกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยของ 11 โรงงาน รวม 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน จะให้ส่งมอบทั้งหมดให้ศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย ที่กระทรวงสาธารณสุขบริหารร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์

จำนวนนี้จะจัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุข 7 แสนชิ้น เพื่อกระจายไปยังสถานพยาบาลทั้งหมดทั้งประเทศ ส่วนที่เหลืออีก 5 แสนชิ้น จะให้กรมการค้ากระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงอื่นและประชาชนทั่วไป ผ่านช่องทาง ร้านขายยา หรือสายการบิน เช่น การบินไทย ร้านค้าส่งค้าปลีกต่างๆ รวมทั้งร้านธงฟ้า
.
สำหรับราคาขายเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี คือ ชิ้นละ 2.50 บาท โดยต้นทุนส่วนเกินรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระ ทั้งนี้ หน้ากากอนามัยที่ผลิตโดยโรงงานทั้ง 11 แห่งที่ยังคงมีเหลือและขายในราคาแตกต่างกันไป จะให้เวลาผู้ประกอบการ 3 วันในการเคลียร์สต็อก และตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป จะต้องจำหน่ายในราคา 2.50 บาทต่อชิ้น

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า เนื่องจากหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมแล้ว ผู้ที่มีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ จะถูกดำเนินคดีในการกักตุน ได้แก่ 1. เก็บสินค้าไว้ที่อื่นนอกเหนือจากที่ที่แจ้งเจ้าหน้าที่ 2. ไม่นำหน้ากากที่มีอยู่ออกมาจำหน่าย 3. ปฏิเสธการจำหน่าย 4. ประวิงการจำหน่าย 5. ส่งมอบหน้ากากอนามัยโดยที่ไม่มีเหตุผลสมควร
.
ผู้กักตุนหรือขายที่ราคาสูงเกินสมควรที่มีเจตนาจะสร้างความปั่นป่วนมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท (พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 29)
.
ผู้ขายเกินราคาจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท (มาตรา 26)
.
โดยปริมาณการครอบครองสูงสุดยังไม่มีการกำหนด เนื่องจากจะเกรงว่าจะกระทบกับผู้บริสุทธิ์ทั่วไป ที่จำเป็นต้องเก็บหน้ากากอนามัยไว้สำหรับปฏิบัติภารกิจ เช่น สถานพยาบาล ซึ่งหากสถานกาณ์เปลี่ยนแปลงก็จะมีการเปลี่ยนคำสั่งอีก

ส่วนหน้ากากอนามัยที่นำเข้า จะมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือหน้ากากอนามัยสีเขียวที่ใช้อยู่ขณะนี้ ซึ่งจะมีอยู่ไม่มากนัก และหน้ากากทางเลือกที่จะมีรูปทรงแตกต่างกันไป สำหรับหน้ากากทางเลือกนี้ กกร.มีความเห็นว่าราคาขายปลีกไม่ควรจะเกินไปกว่าร้อยละ 60 ของต้นทุนนำเข้า ซึ่งร้อยละ 60 นี้จะรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆทั้งหมด เช่น ต้นทุนบริหาร ค่าขนส่ง และค่าตอบแทนต่างๆ ขณะที่ การส่งออก จะไม่อนุมัติให้มีการส่งออกโดยเด็ดขาด เพราะยังผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ

ขณะเดียวกันกรมการค้าภายในปล่อยขบวนคาราวานรถโมบายธงฟ้าจำหน่ายหน้ากากอนามัย ในราคา 10 บาท 1 ห่อ มี 4 ชิ้น จำกัดการซื้อคนละ 1 ห่อ โดยเตรียมรถโมบายธงฟ้า 111 คันกระจายขายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ แบ่งเป็นใน กทม.และปริมณฑล 21 คัน และ ต่างจังหวัด 90 คัน ซึ่งจะขายสินค้าจำเป็นด้วย เช่น น้ำมันพืช ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มุ่งเน้นขายในจุดชุมชน