SHARE

คัดลอกแล้ว

รมว.แรงงานกำชับ ทูตแรงงานไทยในต่างประเทศ 13 แห่ง สร้างการรับรู้แรงงานไทย และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ขณะที่ สสจ.เชียงใหม่ขอความร่วมมือผู้ที่ทราบข้อมูลแรงงานเกาหลีกลับเชียงใหม่แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเร่งตรวจสอบ

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เปิดเผยถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วน สำหรับการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านการป้องกันโรคและสุขภาพ และด้านการบรรเทาผลกระทบที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงานติดตามและดูแลแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานไทย (สนร.) ในต่างประเทศทั้ง 13 แห่ง สร้างการรับรู้แก่แรงงานไทยที่ไปทำงานในสถานประกอบการต่าง ๆ แต่ละประเทศในพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยให้ระมัดระวังติดตามสถานการณ์ และปฏิบัติตามมาตรการคำแนะนำจากหน่วยงานของทางการอย่างเคร่งครัด

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่าได้สั่งการให้ฝ่ายแรงงานฯ สำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศ ทั้ง 13 แห่ง ประสานความร่วมมือกับนายจ้างในสถานประกอบการที่แรงงานไทยทำงานอยู่ เพื่อให้ขอความร่วมมือสถานประกอบการช่วยดูแลคนงานเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ขณะเดียวกันให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลแก่แรงงานผ่านสื่อออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก, ไลน์กลุ่ม, วัดไทย, ชุมชนไทย, ร้านไทย และอาสาสมัครแรงงาน ให้ทราบข้อมูลและมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ส่วนมาตรการบรรเทาผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงแรงงานนั้น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน จะดำเนินการช่วยเหลือตามภารกิจ อาทิ การเตรียมตำแหน่งงานว่างไว้รองรับ การส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ การพัฒนาทักษะฝีมือตามความต้องการ ตลอดจนการประสานนายจ้างเพื่อติดตามค่าจ้างค้างจ่าย และตรวจสอบสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานต่อไป

(ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน)

ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังโซเชียลเผยแพร่ข้อมูลแรงงานไทยที่กลับจากเกาหลีเดินทางไปสถานที่ต่างๆ โดยไม่มีการกักตัว 14 วันตามประกาศของสาธารณสุข ล่าสุดนพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หากทราบข้อมูลและรายชื่อที่อยู่จากทีมสอบสวนโรคจะติดตามทันที หากพบตัวและให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่หากฝ่าฝืนก็ถือว่ามีความผิด เนื่องจากขณะนี้มีการประกาศให้โรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรงและมีข้อกำหนดให้ปฏิบัติอยู่

ส่วนจำนวนคนที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไปยังภูมิลำเนาในแต่ละจังหวัด สสจ.แต่ละจังหวัดต้องการข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและข้อมูลการเดินทางไปแต่ละจังหวัด หากแต่ละจังหวัดมีข้อมูลตรงนี้ กระบวนการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดจะมีประสิทธิภาพ แต่หากไม่มีข้อมูลมาให้ก็ยอมรับว่าลำบาก ทั้งนี้ในการควบคุมป้องกัน จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับคนที่เดินทางกลับมา ครอบครัว และ คนในชุมชน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา และ ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าเป็นบุคคลอันตราย

ขณะเดียวกันประชาชนที่ทราบข่าวการเดินทางกลับ สามารถแจ้งข้อมูลได้ จะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานรัฐ

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า