วันที่ 13 มี.ค. บีบีซีรายงานว่า ตลาดหุ้นทั่วเอเชียดิ่งลงอย่างหนักในการซื้อขายวันนี้ นักลงทุนกังวลว่าการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาตรการฉุกเฉินของรัฐบาลทั่วโลกอาจไม่เพียงพอต่อการหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย
โดยในการซื้อขายช่วงบ่าย ดัชนีนิกเกอิ 225 ของญี่ปุ่น ลดลงอีกร้อยละ 8.5 ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง ลดลงร้อยละ 5.8 ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ลดลงร้อยละ 3.3 ดัชนีดิฟฟี่ 50 ของอินเดีย ต้องหยุดการซื้อขายไป 45 นาที ในช่วงเช้า หลังจากปรับตัวลดลงร้อยละ 10 เนื่องจากสภาวะการซื้อขายมีความผันผวนรุนแรง
นอกจากนั้น ยังเกิดจากการประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ที่ระบุว่า สหรัฐฯ จะระงับการเดินทางจากทุกประเทศในยุโรป ยกเว้นสหราชอาณาจักร เป็นเวลา 30 วัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันนี้ และมาตรการต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงการแนะนำให้กระทรวงการคลังผัดผ่อนการจ่ายภาษีของผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป สร้างความผิดหวังให้ตลาดด้วยการชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สถานการณ์ในเอเชีย เกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ โดยดัชนีหลักในวอลล์สตรีทและลอนดอน ปรับตัวลดลงรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ “แบล็ค มันเดย์” เมื่อปี 1987 ส่วนในฝรั่งเศสและเยอรมนี ดัชนีปรับตัวลดลงมากกว่าร้อยละ 12
นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เข้าแทรกแซงตลาดด้วยการประกาศอัดฉีดเงินกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เข้าสู่ระบบธนาคารเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในตลาดตราสารหนี้ รวมถึงเสนอเพิ่มเงินกู้ยืมประเภทกำหนดชำระคืนไม่เกินหนึ่งวันให้แก่ธนาคาร