กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ระบุตรวจมากไม่ได้แปลว่าจะควบคุมโรคได้ดี เผยค่าน้ำยาจากต่างประเทศตรวจเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 2,500 บาท กำลังเร่งเพิ่มห้องแล็บให้สามารถรองรับการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็น 100 แห่งทั่วประเทศเตรียมพร้อมหากเข้าสู่ระยะที่ 3
วันที่ 17 มีนาคม นายแพทย์โอภาส การกวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดเสวนาเรื่องมาตรฐานห้องแล็บ (Lab) และค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชน โดยมีการอธิบายคำถามต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19

นพ.โอภาส การกวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
นพ.โอภาส อธิบายสาเหตุที่ต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ในผู้ป่วยที่มีอาการแล้ว เนื่องจาก ส่วนใหญ่เริ่มมีอาการแล้วจะตรวจเจอเชื้อ ซึ่งอันนี้คือจำกัดอันแรก มันตรวจได้ก็จริง แต่ส่วนใหญ่ตรวจแล้วถ้าเป็นลบก็บอกอะไรไม่ได้ สมมติเราไปตรวจ วันที่ 7 ผลเป็นบวก เราก็บอกคนนี้ติดเชื้อแล้ว แต่ผลเป็นลบแปลว่าอะไร 1. ไม่ติดเชื้อ 2. ติดเชื้อแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลา เฉพาะฉะนั้นบางคน บอกตรวจแล้วเป็นลบ ที่เขียนข่าวตรวจเป็นลบ เขาบอกเขาไม่ติดเชื้อแล้ว และส่วนใหญ่คนมีอาการจะตรวจเจอเชื้อ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นการตรวจตรงนี้จะมีประโยชน์ในการวินิจฉัย
“จริงไหมครับก็ไม่จริง อันนี้คือข้อจำกัดของแล็บ เพราะฉะนั้นการจะแปลผล ควรแปลผลโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไม่ควรตรวจเอง และไม่ควรแปลผลเข้าข้างตัวเอง ผมก็เห็นโชว์ใบรีพอร์ตกันหลายใบ เป็นลบต้องแปลให้ดี เป็นลบคือวันที่ตรวจไม่เจอเชื้อ แต่ไม่ได้แปลว่า ท่านติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ ต้องดูว่ามันเกินระยะฟักตัวของโรคหรือเปล่าอันนี้คือความสำคัญว่าทำไมเราต้องตรวจแล็บบวกกับอาการในการแปลผลทุกครั้ง”
นพ.โอภาส กล่าวว่า คนที่อยู่ในเกณฑ์ PUI ถ้าตรวจตรงนี้ประโยชน์มากที่สุด ทางกระทรวงเลยให้ตรวจฟรี ย้ำอีกทีฟรีทุกคนที่มีอาการเป็น PUI ย้ำวิธีที่เป็นมาตรฐานในการวินิจฉัย รักษา ควบคุมโรค ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำที่ประเทศจีนใช้จนควบคุมโรคได้ ที่ญี่ปุ่นใช้ ที่สิงคโปร์ใช้คือ คือการตรวจหาเชื้อในทางเดินหายใจเป็นหลัก ส่วนตัวอื่นเป็นตัวเสริม

(นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน)
ขณะที่ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในเรื่องของการตรวจขณะนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ร่วมกับเครือข่าย เพิ่มสถานที่ตรวจเชื้อโควิด-19 โดยหากย้อนไปที่ผ่านมาเริ่มต้นเรามี 2 แห่งก่อน คือจุฬาฯ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ต่อมา ขยายเป็น 7 แห่ง แล้วก็ 30 กว่าแห่ง ตอนนี้ 40 แห่งแล้วครอบคลุมกระจายทั่วประเทศมีทั้งรัฐและเอกชน ใน 40 แห่ง รองรับการตรวจได้ 4,000 เทสต่อวัน ในขณะที่ผ่านมาอัตราตรวจอยู่ที่ 500 เทสต่อวัน
โดยเราเห็นว่าช่วงนี้มีพีค ความต้องการการตรวจเพิ่มขึ้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะพัฒนาสถานที่ตรวจเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 60 แห่ง รวมทั้งหมดเป็น 100 แห่ง ซึ่งจะทำให้ศักยภาพ ประมาณ 10,000 เทสต่อวัน รองรับสถานการณ์เฟส 3 ที่กระทรวงได้คาดการณ์ไว้ว่าผู้ป่วยจะมาก

(ดร.พิไลลักษณ์ อัคคไพบูลย์ โอกาดะ ผู้เชี่ยวชาญตรวจเชื้อโควิด-19)
นพ.โอภาส กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา 2 เดือนกว่า เราตรวจได้ 30,000 กว่าเทส ถ้าเทียบแล้วกับประเทศต่างๆ เราก็ถือว่าเราตรวจค่อนข้างเยอะ ประเทศที่ตรวจเยอะที่สุดถ้าเทียบกับประชากรล้านคน ประเทศที่ตรวจเยอะที่สุดน่าจะเป็นเกาหลีใต้เขาก็ควบคุมได้ดี แต่ประเทศที่ตรวจน้อยจนน่าแปลกใจก็คือญี่ปุ่นตรวจน้อยมากเทียบกับประเทศไทยเราเขาก็ควบคุมโรคได้ดี ดังนั้นการตรวจมากหรือตรวจน้อยไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะบอกว่า ควบคุมโรคได้หรือไม่ได้ปัจจัยสำคัญคือตรวจให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย กับวัตถุประสงค์ที่เราอยากจะตรวจมากกว่า อย่างไรก็ตาม 40 แห่งนี้คือห้องแล็บ แต่ถ้าประชาชนจะไปตรวจโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนใดก็ได้แล้วทางโรงพยาบาลจะมีการส่งมาตรวจที่ห้องแล็บ
สำหรับ ค่าใช้จ่ายน้ำยาตรวจ ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คิดอยู่ที่ 2,500 บาท แต่กำลังมีการคิดค้นน้ำยาตรวจฝีมือคนไทย ซึ่งจะมีราคาลดลมาอยู่ที่ 1,000 บาท
(คลิป)