นักวิจัยชี้ประเทศที่ฉีดวัคซีนบีซีจี มีอัตราติดเชื้อ-เสียชีวิตจากโควิด-19 ต่ำ

วันที่ 14 เม.ย.63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า มหาวิทยาลัยมิชิแกน (UM) ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยบนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย โดยผลการวิจัยชี้ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาอาจไม่ถึงเลขสามหลักในช่วงปลายเดือนมีนาคม หากสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้ฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรคในช่วงหลายทศวรรษก่อนหน้านี้ โดยทางนักวิจัยวิเคราะห์รายงานผู้ติดเชื้อรายวันของโรคโควิด-19 และอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องใน 50 กว่าประเทศในช่วง 30 วัน พร้อมทั้งสร้างแบบจำลองความแตกต่างของเส้นกราฟที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีการกำหนดนโยบายวัคซีนบีซีจี (BCG) มาก่อนหน้านี้หรือเมื่อไม่นานมานี้ เช่น บราซิล ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และอินเดีย เทียบกับประเทศที่ไม่มีนโยบายดังกล่าว เช่น สหรัฐอเมริกา อิตาลี และเลบานอน

การวิเคราะห์พบว่าประเทศที่บังคับให้ฉีดวัคซีนบีซีจี หรือวัคซีนป้องกันวัณโรค มีอัตราเพิ่มขึ้นช้าว่าประเทศอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านยอดผู้ติดเชื้อและการเสียชีวิต ยกตัวอย่างจากสหรัฐฯ นักวิจัยคาดการณ์ตามแบบจำลองว่าสหรัฐฯ จะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 94 ราย ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 4 ของจำนวนผู้เสียชีวิตจริงที่ 2,467 ราย ในวันที่ 29 มี.ค. การศึกษาเพิ่มเติมพบว่าการฉีดวัคซีนอาจถูกมองว่าเป็นการกระทำเอื้อสังคม (prosocial act) ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนสามารถรับการคุ้มครองนานพอกับผู้ที่ฉีด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ได้บังคับฉีดวัคซีนบีซีจี

ด้าน น.ส.มาร์ธา เบิร์ก (Martha Berg) หัวหน้าผู้เขียนงานวิจัยและนักศึกษาปริญญาโทด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยมิชิแกนกล่าวว่า บีซีจีอาจมีประสิทธิภาพเมื่อสัดส่วนของประชากรจำนวนมากมีบทบาทในการต่อต้านไวรัส กล่าวคือ การแพร่กระจายของไวรัสอาจช้าลงเมื่อมี “ภูมิคุ้มกันฝูง” ที่ป้องกันไวรัสจากการแพร่กระจายในหมู่ประชากรอย่างง่ายดายโดยการศึกษาดังกล่าวตั้งบนหลักฐานที่มีมาก่อนหน้านี้ว่าการฉีดวัคซีนบีซีจี ซึ่งโดยปกติจะฉีดให้เด็กแรกเกิดหรือในช่วงวัยเด็กนั้น มีผลในการป้องกันที่ยาวนาน ไม่เพียงแต่ป้องกันวัณโรค หากยังป้องกันโรคติดเชื้ออื่นๆ ด้วย

ทั้งนี้การศึกษานี้มีข้อจำกัดบางประการ เช่น บางประเทศอาจมีข้อมูลจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่แม่นยำกว่าประเทศอื่น นอกจากนี้ เนื่องจากวัคซีนบีซีจีจะฉีดในช่วงต้นของชีวิต จึงไม่แน่ชัดว่าการฉีดวัคซีนให้กับผู้ใหญ่อาจมีประสิทธิภาพเท่ากันหรือไม่ หรือการฉีดวัคซีนนั้นจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 นานเท่าใด ด้านมาร์ธา เบิร์กกล่าวว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่อาจสรุปได้ว่าวัคซีนบีซีจีจะมีผลข้างเคียงใด หากฉีดให้กับผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 อยู่แล้ว มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม”