“ผมร้อนใจยิ่งกว่าท่าน” นายกรัฐมนตรีรับปากดูแลประชาชนให้ครบทุกคน

วันที่ 15 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาการลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือ 5 พันบาท ผ่านเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกันว่า ตนทราบดีว่ามีความสับสน เห็นจากการมากันที่กระทรวงการคลัง
.
เรื่องนี้ต้องสร้างความเข้าใจกันใหม่ให้ตรงกันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่มให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและเป็นธรรม (สำหรับโครงการนี้ซึ่งช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด) โดยพิจารณาจากฐานแรงงานที่มีอยู่ 37 ล้านคน ซึ่งมีผู้ประกอบอาชีพ อิสระ แรงงานนอกระบบ 9 ล้านคน นอกจากแรงงานในระบบ 11 ล้านคน และเกษตรกร 17 ล้านคน และยังมีปัญหาเรื่องนักศึกษาที่ทำงาน ที่ต้องพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม การจะใช้เงินตรงไหนมีการตรวจสอบทุกอัน ตนก็ไม่อยากให้รัฐบาลหรือ ครม.ต้องไปมีข้อผิดพลาด
.
“อย่างไรก็ตาม ผมรับฟังความเดือดร้อนของท่านเสมอทุกวัน ผมเห็นแล้วก็เห็นใจและสงสาร เป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำให้ท่าน ผมร้อนใจมากกว่าท่าน”
.
ส่วนที่ขาดเหลือกำลังให้มีการตรวจสอบคัดกรองว่าตรงไหนควรจะให้เพิ่ม หรือตัวระบบที่มีการคัดกรองคนออกไปก็ต้องมาดู ขอยืนยันว่าพยายามจะดูแลท่านอย่างเต็มที่ ตามขีดความสามารถที่รัฐมีอยู่ ขอให้ได้เข้าใจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า มีการจัดตั้งคณะกรรมกำกับดูแล ติดตามข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบ ตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาให้มีความครอบคลุมทั่วถึง จัดทำข้อเสนอแนะเยียวยาให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงการช่วยเหลืออย่างแท้จริง
.
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงเรื่องงบประมาณที่ใช้ด้วยว่า ขณะนี้มีเพียงงบกลางของปี 2563 ส่วนการโยกงบประมาณจากกระทรวงต่างๆ มาใช้ ต้องจัดทำเป็น พ.ร.บ. ต้องผ่านสภาและใช้เวลา ส่วน พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ยังอยู่ในชั้นเตรียมการ ยังไม่มีเงินมีแต่ตัวเลข ดังนั้น การช่วยเหลือ 5 พันตอนนี้จึงมีงบประมาณจ่ายได้แค่เดือนเดียว เดือน 2-3 ต้องรอเงินกู้ นี่คือสิ่งที่เป็นความยากง่ายของรัฐบาล เพราะการกู้เงินมีความผูกพันต้องหาเงินมาชำระหนี้ในอนาคต
.
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวตำหนิกรณีมีคนไปพูดก่อนว่า อาจจะมีการจ่ายให้ 6 เดือน เป็นการพูดเกินเลยไป ทั้งที่ยังไม่ได้ข้อยุติ หลายคนร้อนใจ หลายคนอยากช่วยประชาชน ตนขอให้เข้าใจด้วย วันนี้มาพูดในฐานะหัวหน้ารัฐบาล การจะให้เงินเยียวต้องมีการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องด้วย ถ้าคิดว่ามีเงินเท่านี้ จะเอามาให้ตรงนี้ถ้าคิดอย่างนั้นไม่ใช่รัฐบาลแล้ว
.
สำหรับกรณีเกษตรกร 17 ล้านคน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังพิจารณาหางบประมาณช่วยเหลือในเดือนแรกก่อน และเดือนต่อๆ ไปต้องรอเงินกู้เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ อธิบายถึงตอนเริ่มต้นโครงการเราไม่ทิ้งกันว่า เดิมมีเม็ดเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท คำนวณแล้วช่วยได้ 3 ล้านคน โดยจ่ายให้ 5 พันบาทต่อเดือน รวม 3 เดือน แต่เมื่อรับฟังมีผู้เดือดร้อนหลายกลุ่ม จึงมีการขยายเป็น 9 ล้านและต้องดูว่าจะเอาเงินจากไหนมาให้ หลายคนก็เร่งกลัวจะไม่ได้ แต่ก็มีปัญหาไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปโอนให้เหมือนกัน ต้องรอสักระยะหนึ่ง เข้าใจถึงความเดือดร้อนของท่าน
.
“ทุกคนผมรับรองว่า ผมจะดูแลให้ครบทุกคนน่ะนะ”

ทั้งนี้ในการประชุม ครม. ได้มีการรับทราบ คำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลด้านผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วย ปลัด 10 กระทรวง รวมทั้งผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นกรรมการและเลขานุการ
.
โดยปลัด 10 กระทรวง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ ,ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ปลัดกระทรวงแรงงาน, ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
.
กำหนดอำนาจหน้าที่
– ให้ติดตาม รวบรวม และบูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิค-19 รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน
– ตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐต่างๆ
– วิเคราะห์และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 มีความครอบคลุม ทั่วถึง และเป็นธรรม – กำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินมาตรการชดเชยรายได้ ให้เป็นไปตามแผนงานและเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และเสนอแนะกลไกขั้นตอนการดำเนินงานที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างแท้จริง ต่อนายกรัฐมนตรี หรือศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน
.