Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

จุฬาราชมนตรีระกาศให้วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1441 ตรงกับวันศุกร์ที่ 24 เมษายน 2563 ขอปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เคยประกาศแนวทางไว้ ขณะที่กรมควบคุมโรคแนะ 7 แนวทางป้องกันโควิด-19 ช่วงเดือนรอมฎอน

คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ออกคำแนะนำในการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเดือนรอมฎอน สำหรับชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรค ทั้งภายในครอบครัวและในชุมชน

สำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศเรื่อง กำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1441 ตามที่ได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ในวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2563 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้านั้น ปรากฏว่า ในวันและเวลาดังกล่าวมีผู้เห็นดวงจันทร์ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1441 ตรงกับวันศุกร์ที่ 24 เมษายน 2563

นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี แจ้งผ่านสารจุฬาราชมนตรี สาระคำคัญคือ การถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมในปีนี้ อาจจะอยู่ในช่วงของความวิตกกังวลเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งความศรัทธาในอัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า จะทำให้เราสงบและมีความมั่นใจในการปฏิบัติศาสนกิจที่สำคัญยิ่งนี้ และการแพร่ระบาดดังกล่าวนั้นก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อการถือศีลอดแต่ประการใด ตรงกันข้ามการถือศีลอดตามวิถีอิสลามนี้ จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ปฏิบัติ ทั้งในด้านกายภาพและจิตภาพได้เป็นอย่างดี จึงขอให้มุสลิมทุกคนที่ไม่มีอุปสรรคตามที่บทบัญญัติศาสนากำหนดได้ถือศีลอดด้วยความเคร่งครัด และการถือศีลอดที่หวังในผลบุญอันยิ่งใหญ่นั้น จะต้องปฏิบัติควบคู่ด้วยจรรยามารยาทอันดีงาม มีเจตนาที่บริสุทธิ์ต่ออัลลอฮ์ และมีการแบ่งปันโภคปัจจัยต่าง ๆ ต่อเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง และผู้ทุกข์ยากเดือดร้อนทั้งหลาย ตลอดจนต้องมีความอดทนต่อความหิวและกระหาย รวมทั้งการประพฤติตนที่ไม่สร้างความเดือดร้อนต่อผู้ใด
ในยามที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับโรคระบาดเช่นนี้

ข้าพเจ้าขอให้มุสลิมทั้งหลายได้ปฏิบัติศาสนกิจการถือศีลอดและการละหมาดญะมาอะห์ที่เป็นซุนนะห์ (สุนัต) ประเภทต่าง ๆ ในรูปแบบที่เปี่ยมด้วยจรรยามารยาท ไม่เป็นเหตุนำสู่อันตรายแก่ตนเองและผู้อื่น ด้วยการปฏิบัติศาสนกิจต่าง ๆ ในบ้านของตนเอง หลีกเลี่ยงการรวมตัว และร่วมกันขอดุอาจากอัลลอฮ์ได้ทรงปัดเป่าโรคระบาดนี้ให้หมดไปจากประเทศไทยและทุกประเทศโดยเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านได้ใคร่ครวญด้วยศรัทธาและสติปัญญาว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นี้ เป็นสัญญาณจากอัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า มาเตือนสติมนุษย์ให้มีความตระหนักคิด มิให้หลงลำพองไปกับความเจริญทางวัตถุ จนลืมสัจธรรมแห่งชีวิตที่ทุกคนล้วนอยู่ใต้พระบัญชาของพระองค์ ดังนั้น จึงขอให้ทุกท่านได้ใช้ประโยชน์ในห้วงเวลาอันสำคัญยิ่งนี้ในการประกอบคุณงามความดี เพื่อยังความพอพระทัยต่อพระองค์ต่อไป

 

ขณะที่ก่อนหน้านนี้นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้ลงนามคำแนะนำในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อโึวิด-19 ช่วงเดือนรอมฎอนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ลงวันที่ 10 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโคำแนะนำในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงเดือนรอมฎอน ควิด-19 ในประเทศไทย ยังมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นทุกพื้นที่ กรมควบคุมโรค จึงขอความร่วมมือจากประชาชนชาวไทยผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศ ร่วมกันป้องกันและลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 โดยขอความร่วมมือให้ผู้ที่ถือศีลอดปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือสลามกันเท่านั้น

2.งดการไปร่วมละหมาดญะมาอะฮ์หรือละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด และปฏิบัติตามประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด โดยแนะนำให้ปฏิบัติศาสนกิจภายในบ้าน

3.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน และงดการแบ่งปันอาหารให้แก่กัน หากจำเป็นให้นั่งห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร และไม่จัดอาหารแบบใส่ถาดรวม (บุฟเฟต์) ให้แยกเป็นอาหารจานเดียว มีช้อนส้อมและแก้วน้ำเฉพาะของตนเอง และล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร

4.หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนเป็นจำนวนมาก หากจำเป็นควรเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลให้สะอาดอยู่เสมอ

5.กรณีมีความจำเป็นต้องปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิด แนะนำให้เปิดหน้าต่างและผ้าม่านเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก งดการใช้เครื่องปรับอากาศ และให้คัดกรองทุกคนก่อนเข้ามัสยิด หากมีอาการไข้ (อุณหภูมิตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส) ไอ เจ็บคอ แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดเข้าร่วมและแนะนำให้สังเกตอาการที่บ้าน

6.หากมีการสัมผัสบุคคลหรือไปสถานที่เสี่ยง เมื่อกลับเข้าบ้าน แนะนำให้รีบทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำสระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้า

7.เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และดื่มน้ำสะอาดมากๆ หลังรับประทานอาหาร นอกจากจะเป็นข้อควรปฏิบัติในการถือศีลอดที่ถูกต้องแล้วยังช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำในสภาพอากาศร้อนด้วย

ทั้งนี้ ในกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรออกไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาข้างนอกบ้าน ให้ปฏิบัติศาสนกิจภายในบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 จากสิ่งแวดล้อมภายนอก เพราะหากกลุ่มดังกล่าวได้รับเชื้อ จะมีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า