SHARE

คัดลอกแล้ว

ศบค. แถลงข่าวชี้แจงเรื่องงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง จำนวน 2,400 ล้านบาท หลังเกิดข้อกังวลว่าจะมีการตัดงบจำนวนดังกล่าวและเกรงว่าอาจกระทบงบบัตรทอง โดยผู้ร่วมแถลงข่าวครั้งนี้ ประกอบด้วย นายเดชาวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

(เดชาวัฒน์ ณ สงขลา)

นายเดชาวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ให้บรรจุพนักงานทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ประมาณกว่า 45,000 คน มาเป็นข้าราชการ สิ่งที่พยายามทำอยู่คือเงินเดือนที่พนักงานรับอยู่ในปัจจุบันก็ตามมาเมื่อเป็นข้าราชการแล้ว ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ตามมาด้วย เมื่อจ้างพนักงานแล้วจะมาเป็นงบบุคลากรที่จะบรรจุเป็นข้าราชการใหม่

“วิธีในทางปฏิบัติไม่สามารถโอนงบประมาณที่เป็นค่าจ้างพนักงานมาเป็นข้าราชการได้ทันที ถึงจะจัดสรรต่อเป็นงบบุคลากรของข้าราชการที่จะได้รับบรรจุใหม่ คือเข้าใจก่อนว่าทำไมต้องโอนมาเป็นงบกลางก่อนนี่คือวิธี” ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าว

ด้าน นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คนที่ทำงานอยู่กับโควิดอยู่แล้ว เป็นบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ที่ปกติก็ทำงานในตำแหน่งพนักงานกระทรวงสาธารณสุข พนักงานราชการ หรือลูกจ้าง ในแต่ละปีกระทรวงสาธารณสุขมีแหล่งรายได้ จาก งบประมาณ งบเงินเดือน จากสปสช. กรมบัญชีกลาง สิทธิข้าราชการ ประกันสังคม ตลอดจนผู้ป่วยที่บริจาคให้

(นพ.สุขุม กาญจนพิมาย)

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ในแต่ละต้นปีกระทรวงจะมีการกำหนดเงินเดือน ซึ่งมีงบประมาณจากแหล่งที่มาข้างต้น เพื่อจ่ายเป็นเงินเดือน เรียกว่า เงินนอกงบประมาณ โดยจากที่เรามองว่า พนักงานกลุ่มนี้ได้ทำงานหนักและเสียสละ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้อนุมัติให้มีอัตราข้าราชการพิเศษแบบเจาะจง คือรับจากคนที่ทำงานอยู่แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ถือกลุ่มที่เป็นลูกจ้างอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็มองว่า เพื่อขวัญกำลังใจต้องรีบบรรจุ และปรับแหล่งที่มาเงินเดือน จากเดิมที่เป็นเงินนอกงบประมาณ มาเป็น เงินงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งมีการเตรียมเงินเดือน ซึ่งเป็นเงินบำรุงของกระทรวงอยู่แล้วซึ่งสามารถดำเนินการได้

“การบรรจุข้าราชการคราวนี้ เราก็มองว่าบัตรทองที่ 2,400 ล้านบาท ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตัดมาเพื่อมาใช้ ได้คุยกับท่านผอ.สำนักงบประมาณ เรามีการเตรียมงบประมาณอยู่แล้วเมื่อต้นปี คือมาจากแหล่งที่มาก็คือบัตรทอง งบของกรมบัญชีกลางที่จ่ายเป็นสวัสดิการของข้าราชการ ตลอดจนเป็นของประกันสังคม และมีเงินบริจาคที่เข้าเป็นเงินบำรุงโรงพยาบาล เมื่อเข้าเป็นเงินบำรุงของโรงพยาบาลก็ต้องมาเพื่อใช้ในการบริหารก็คือเป็นค่าจ้างบุคลากรที่เป็นลูกจ้างของเรา ส่วนค่ายา ค่ารักษาพยาบาล ค่าเครื่องไม้เครื่องมือ ค่าอะไรพวกนี้ต่างๆ ตลอดจนครุภัณฑ์ที่มีความจำเป็น เรามีการทำเมื่อต้นปี เพราะฉะนั้นเงินนี้ได้เตรียมเมื่อต้นปี คืนเงินก้อนเดียวกัน เพียงแต่เราเอาเงินที่ต้นปีนี้ตั้งเป็นกำหนดอยู่แล้ว ส่วนบัตรทองก็จ่ายตามระบบปกติเพื่อจ่ายให้โรงพยาบาลเป็นเงินบำรุงโรงพยาบาลอีกทีหนึ่ง”

นายแพทย์สุขุม ยืนยันการดูแลประชาชนไม่กระทบกระเทือน นอกจากนี้ งบบัตรทอง 10,000 ล้านบาทใช้ในการส่งเสริมป้องกันโรค  อีก 50,000 ล้านบาทดูแลผู้ป่วยนอก อีก 50,000 ล้านบาทดูแลผู้ป่วยใน ซึ่งเราพบว่าในภาวะโควิด-19 ระบาด 10,000 ล้านบาทอาจจะไม่เพียงพอ ครม.ได้อนุมัติงบกลาง 3,000 ล้านบาทให้สปสช.เพิ่มเติมจากเดิมอยู่แล้วในการดูแล ดังนั้นใน 3,000 ล้านบาทสามารถตรวจผู้ป่วยได้ถึง 1 ล้านบาท และยังได้รับการสนับสนุนจากงบกลาง อาทิ ซื้อจัดทำห้องปลอดเชื้อ ซื้อหน้ากาก N95  ชุด PPE ปรับปรุงห้องความดัดลบ

โฆษกรัฐบาล กล่าวเสริมว่า นายกฯ ย้ำกับสองหน่วยงาน วิธีทำงบจะอย่างไรก็แล้วจะต้องไม่ให้เกิดผลกระทบการรักษาพยาบาลของประชาชนที่ใช้วสิทธิบัตรทองกับทั้งบุคลากรทางการแพทย์ หวังว่าจะชัดเจนแลไม่สับสนกันต่อไป ขอให้ความมั่นใจว่า ผู้ใช้สิทธิบัตรทองยังใช้สิทธิได้เท่าเดิม และบุคลากรทางการแพทย์ที่จะได้รับการบรรจุจะมีแหล่งเงินที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมไว้แล้ว

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอย้ำตรงนี้ ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีดูแลกระทรวงสาธารณสุข และเป็นประธาน สปสช. ขอให้มั่นใจว่า ไม่มีใครกล้าตัดสิทธิประโยชน์ของประชาชนที่พึงได้รับในด้านการรักษาพยาบาลออกไปแน่นอน และการให้บริการจะต้องดีขึ้นด้วย ส่วนเรื่องงบนั้น เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ ซึ่งตนได้มอบให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปหารือกับสำนักงบประมาณแล้ว ว่าถ้าจะตัดงบ จะตัดอย่างไร บนพื้นที่ฐานที่ว่าประชาชน ต้องได้รับการบริการอย่างดีที่สุด ไม่ขาดตกบกพร่อง ไปจากเดิม ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงฯ เอง ก็มีการตัดงบไป แต่เป็นงบของการจัดซื้อครุภัณฑ์ และงบก่อสร้างที่ยังไม่เซ็นสัญญา

“ในส่วนของการบรรจุข้าราชการใหม่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่คนทำงาน เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ และเราก็มีงบตรงส่วนนี้อยู่แล้ว จะไม่ตัดเอางบด้านการดูแลรักษาประชาชนไปให้เป็นเงินเดือนแน่นอน สิ่งที่จะเน้นย้ำคือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นประชาชนต้องได้รับสิทธิ์บัตรทอง เพื่อดูแลรักษาพยาบาล เหมือนเดิม และดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต จะไม่มีใครมาตัดสิทธิ์ที่ประชาชนพึงได้รับ” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า