สิบเอกร้อง เสรีพิศุทธ์ ถูกนำชื่อไปตั้งโครงการเบิกงบหลวง ร้องทุกข์ภายในยิ่งถูกลงโทษ

วันที่ 27 เม.ย. ที่พรรคเสรีรวมไทย เขตบางขุนนนท์ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน นำ ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี สังกัดหน่วยงานหนึ่งของ กองทัพบก เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร กรณีถูกผู้บังคับบัญชานำชื่อไปแอบอ้างตั้งโครงการต่างๆ เพื่อเบิกงบประมาณ
.
นายวีระ กล่าวว่า หลักฐานที่มีอยู่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการทุจริตของกองทัพบก เฉพาะเรื่องการไปราชการและจัดอบรมที่ทุจริตนี้พิจารณาต่างกรรมต่างวาระผู้เกี่ยวข้องจะติดคุกเป็นร้อยปี แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือกัน เพื่อให้เรื่องลักษณะนี้ไม่เงียบหายไป รวมถึงสวัสดิภาพของทหารชั้นผู้น้อยที่ออกมาเปิดโปงด้วย

นายวีระ ได้แสดงหลักฐานบางส่วน คือ หนังสือขออนุมัติเดินทางไปราชการชั่วคราว ลงวันที่ 18 เม.ย. 2560 ระบุไปราชการระหว่างวันที่ 19 – 21 เม.ย. 2560 ที่ จ.นครราชสีมา และเดือน มิ.ย.อีกครั้งหนึ่ง เปลี่ยนแต่เลขหัวหนังสือและวันเดินทางโดยเบิกงบประมาณ 18, 360 บาท มีรายชื่อทหารกลุ่มเดิม 25 คน ถูกบังคับให้เซ็นชื่อรับรองแต่ไม่ได้มีการเดินทางไปราชการจริง รวมถึงการอนุมัติไปราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงปลายเดือนเม.ย.และเดือนมิ.ย. เบิกงบ 12,240 บาท ก็เป็นการทุจริตในลักษณะเดียวกัน
.
นอกจากนี้ยังมี หลักฐานอนุมัติโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องกันยาเสพติด ช่วงเดือนมิ.ย.และเดือน ก.ค. 2562 ใช้รายชื่อทหารที่เข้าร่วมชุดเดิม โดยนายทหารยศพันโท ปัจจุบันเป็นยศพันเอก ที่ทำโครงการเขียนใบเสร็จเอง จัดซื้อวัสดุร้านค้า จ.ปทุมธานี 4,000 บาท
.
รวมถึงโครงการอบรมเยาวชนป้องกันยาเสพติดในลักษณะเดียวกัน ที่ไม่มีการอบรมจริง มีการเบิกค่าอาหารและค่าวิทยากร โดยใช้รายชื่อทหาร 25 นายเช่นเดิม แต่เรียงชื่อไขว้กันหรือสลับลำดับจากโครงการก่อนหน้า โดยให้ทหารหญิงยศสิบโท ออกใบเสร็จจำนวน 15,600 บาท

ด้าน ส.อ.ณรงค์ชัยยืนยันว่าตนไม่เคยเข้าร่วมโครงการแต่ถูกบังคับให้จำใจต้องลงชื่อเช่นเดียวกับทหารชั้นผู้น้อยคนอื่นๆ ได้เคยทักท้วงผู้บังคับบัญชาไปแล้ว แต่กลับถูกกลั่นแกล้งลงโทษทางวินัย พร้อมยืนยันว่า การร้องเรียนภายในกองทัพผ่านลำดับชั้นการบังคับบัญชาไม่ได้ผล ยิ่งร้องทุกข์ก็ยิ่งถูกลงโทษหนักขึ้น โดยข้อมูลเชิงลึกและรายละเอียดต่างๆ จะรอชี้แจงกับ กมธ.ต่อไป
.
สำหรับการออกมาเปิดโปง เนื่องจากตนยังไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก จึงขอเป็นตัวแทนนายทหารชั้นผู้น้อยออกมาพูด ไม่มีทหารคนไหนอยากทำให้กองทัพเสียชื่อเสียง หากผู้บังคับบัญชาใส่ใจและไม่มีการทุจริตในกองทัพอย่างที่ปรากฏ
.
ส.อ.ณรงค์ชัย ยังเรียกร้องไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดยระบุว่าได้ยื่นเรื่องไว้พร้อมขอการคุ้มครองพยานตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ซึ่งตามกฎหมายหากข้าราชการชั้นผู้น้อยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ป.ป.ช.สามารถคุ้มครองพยานและให้เปลี่ยนหน่วยงานสังกัดในอัตรายศหรือตำแหน่งเทียบเท่าสังกัดเดิมได้ เพื่อความปลอดภัยและ ประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง จึงอยากให้ ป.ป.ช.ใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย
.
ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มาให้ข้อมูลและร้องเรียนต่อ กมธ. โดยจะเรียกประชุมทันทีที่ทำได้ พร้อมเผยว่า เรื่องนี้ต้องเร่งดำเนินการ ไม่เช่นนั้นอาจบานปลายแบบกรณี “จ่าคลั่งโคราช” ที่ทหารชั้นผู้น้อยถูกกดดัน และได้ให้กำลังใจ ส.อ.ณรงค์ชัย ต้องใจเย็น ไม่ทำแบบกรณีโคราช ส่วนที่ทางกองทัพจะแจ้งความเอาผิดส.อ.ณรงค์ชัย ฐานลักทรัพย์ที่เป็นเอกสารราชการนั้น ก็ถือเป็นสิทธิ์ของกองทัพที่จะดำเนินการ โดย กมธ.จะช่วยดูแลเรื่องความถูกต้องเป็นธรรมอย่างเต็มที่