ชาวอินโดนีเซียอาบแดดกันมากขึ้นหลังเชื่อว่าความร้อนจะช่วยป้องกันไวรัส

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นานาประเทศต่างสันหาวิธีการต่างๆ เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยหรือการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งชาวอินโดนีเซียก็ปฏิบัติไม่ต่างๆ จากประชาชนในหลายๆ ประเทศ แต่สิ่งหนึ่งที่ชาวอินโดนีเซียนิยมกันอย่างมากในช่วงนี้คือการอาบแดด

สาเหตุที่ชาวอินโดนีเซียเริ่มหันมาอาบแดดกันมากขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 สืบเนื่องจากมีกระแสข่าวจากทางสื่อตะวันตกรวมถึงประธานาธิบดีทรัมป์ที่อ้างว่า อุณหภูมิที่อุ่นจะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกายให้สามารถรับมือกับไวรัสได้ ด้าน นาง Theresia Rikke Astria วัย 27 ปี จากเมืองยอกยาการ์ตา ในเกาะชวา เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ฉันพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดมาตลอด เพราะฉันกลัวดำ แต่ตอนนี้ฉันหวังว่ามันจะช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันของฉันแข็งแรงมากขึ้น”

ด้าน ดร. Dirga Sakti Rambe แพทย์จากโรงพยาบาล OMNI Pulomas กรุงจาการ์ตากล่าวว่า การให้ร่างกายได้รับแสงแดดบ้างเป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดี ไม่ใช่เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยตรง แสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง การอาบแดดไม่ได้ฆ่าไวรัสที่ทำให้เกิดโควิด-19 ด้านรัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระวังถึงอันตรายที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง

ตามรายงานระบุว่าการอาบแดดถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในช่วงออกกำลังกายตอนเช้าที่ทหารและตำรวจในกรมนิยมปฏิบัติการในช่วงนี้ นอกจากนี้ตามเมืองใหญ่ๆ ประชาชนจำนวนไม่น้อยที่อาศัยอยู่ตามตรอกซอยแคบๆ ได้ไปนั่งรับแสงแดดตามสถานีรถไฟ ด้าน Alfian ชาวกรุงจาการ์ตาที่นิยมมานั่งอาบแดดที่สถานีรถไฟทังเกอรังเผยว่า ผมเริ่มอาบแดดแบบจริงจังในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด และเมื่อผมกลับบ้านไปอาบน้ำผมรู้สึกว่าร่างกายผมสดชื่นมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อ 9,511 ราย เสียชีวิต 773 ราย และรักษาหายแล้ว 1,254 ราย