“ดูเร็กซ์” ชี้ ยอดขายถุงยางตก มาตรการล็อคดาวน์ทำให้คนมีเซ็กซ์ลดลง

1 พ.ค. เดอะ การ์เดียนรายงานว่า “ดูเร็กซ์” ผู้ผลิตถุงยางอนามัยรายใหญ่ เปิดเผยว่า ยอดขายลดลง เนื่องจากมาตรการปิดเมืองในช่วงการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โอกาสที่คู่รักจะได้อยู่ใกล้ชิดกันน้อยลง

นายแล็กซ์แมน นาราซิมฮาน ซีอีโอของ เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยภายในบ้านจากอังกฤษ ซึ่งซื้อกิจการของดูเร็กซ์ เมื่อปี 2010 กล่าวว่า ยอดขายถุงยางอนามัยลดลง เนื่องจากผู้คนไม่สามารถมีเซ็กซ์ได้มากนัก ที่เป็นผลมาจากมาตรการเว้นระยะทางสังคม และมาตรการปิดเมืองที่เข้มงวด

นายนาราซิมฮาน กล่าวว่า การมีเซ็กซ์ของผู้คนในอิตาลีลดลงอย่างมาก รวมถึงในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ เพราะผู้คนไม่สามารถพบปะกันได้ตามปกติ เนื่องจากการพบปะผู้คนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน ถือว่าไม่สมควรตามมาตรการปิดเมือง

เขายังเสริมว่า คนหนุ่มสาวในสหราชอาณาจักร มีเซ็กซ์ลดลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับก่อนที่มาตรการปิดเมืองจะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายนาราซิมฮาน ระบุว่า ความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นยังนำไปสู่การมีเซ็กซ์ที่ลดลงระหว่างคู่สามีและภรรยาด้วย

ในวันแรกของการบังคับใช้มาตรการปิดเมือง รัฐบาลอังกฤษได้แจ้งให้ประชาชนพิจารณาถึงรูปแบบความสัมพันธ์ใหม่ โดยพวกเขาจะต้องตัดสินใจว่า จะเพิ่มระดับความสัมพันธ์ไปอีกขั้นหนึ่ง และย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกัน หรือกักตัวแยกกัน

เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ คาดว่าอุปสงค์สำหรับถุงยางอนามัย จะฟื้นตัวเมื่อมาตรการปิดเมืองสิ้นสุดลง และกล่าวว่า โรงงานผลิตถุงยางของบริษัทจะไม่ลดกำลังการผลิต นายนาราซิมฮาน เสริมว่า ภาวะการชะลอตัวของการมีเพศสัมพันธ์ในจีนในระหว่างการปิดเมือง ได้ฟื้นตัวแล้ว และอุปสงค์ของถุงยางอนามัยได้กลับมาอยู่ในระดับเดียวกับที่เคยเป็นก่อนที่จะเกิดการระบาด

ก่อนหน้านี้ ได้เกิดความกังวลว่า ทั่วโลกจะเกิดภาวะการขาดแคลนถุงยาง เนื่องจากมาตรการปิดเมืองที่เข้มงวดในมาเลเซีย ส่งผลให้บริษัท คาเร็กซ์ โรงงานผลิตถุงยางอนามัยรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งผลิตถุงยางทุก 1 ใน 5 ชิ้นของโลก ต้องปิดโรงงาน 3 แห่ง คาเร็กซ์ คาดว่า ยอดการผลิตถุงยางจะลดลงจากเดิมกว่า 200 ล้านชิ้น ในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงเมษายนที่ผ่านมา