มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นให้เงินช่วยเหลือนักศึกษา 50,000 เยน ลดภาระค่าเรียนออนไลน์

วันที่ 3 พ.ค. เว็บไซต์ Japantoday รายงานว่า มหาวิทยาลัยเมจิกาคุอินมอบเงินให้นักศึกษา 50,000 เยน หรือราว 15,000 บาท เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนทางออนไลน์

เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการระบาดของโคโรนาไวรัส มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นหลายแห่งจึงได้เปลี่ยนมาทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพื่อให้นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยมีความปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าการเข้าถึงแหล่งความรู้เช่นห้องสมุด อาจไม่สามารถทำได้ และเนื่องจากอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ยังคงปิดให้บริการ ทำให้นักศึกษาที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าถึงชั้นเรียนทางออนไลน์ได้

มหาวิทยาลัยเมจิกาคุอิน จึงตัดสินใจที่จะให้เงินช่วยเหลือแก่นักศึกษาทั้งหมด 12,000 คน คนละ 50,000 เยน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของนักศึกษาในการเรียนทางออนไลน์ โดยเป็นการช่วยเหลือนักศึกษาที่ไม่มีมีอินเตอร์เน็ตหรือคอมพิวเตอร์ที่บ้าน นอกจากนั้น เงินก้อนนี้จะใช้เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ไม่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ในช่วงนี้ ให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ จนกว่าพวกเขาจะได้กลับไปทำงาน

มหาวิทยาลัยเมจิกาคุอิน ซึ่งทั้ง 2 วิทยาเขตกรุงโตเกียวและเมืองโยโฮามา ปิดการเรียนการสอนมาตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. ได้ทำการตัดสินใจอย่างเร่งด่วยที่จะจัดหาเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของนักศึกษา เนื่องจากมหาวิทยาลัยจะทำการเรียนการสอนทางออนไลน์ไปจนถึงวันที่ 20 พ.ค. นี้ โดยเงินช่วยเหลือทั้งหมดจำนวน 600 ล้านเยนนี้นำมาจากเงินสำรองที่ถูกเก็บไว้เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยเมจิกาคุอินยังกำลังพิจารณามาตรการช่วยเหลือต่างๆ สำหรับนักศึกษาที่ครอบครัวได้รับผลกระทบด้านรายได้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย เช่น การให้ทุนการศึกษาพิเศษสำหรับนักศึกษาที่พ่อแม่ตกงาน นอกจากนี้ ยังมีการเลื่อนวันชำระค่าเทอมออกไปด้วย จากปกติมีกำหนดการจ่ายช่วงสิ้นเดือนเม.ย. ไปเป็นสิ้นเดือนพ.ค. อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการลดค่าเทอมในขณะนี้

จากข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยประมาณร้อยละ 80 ทั่วประเทศได้เปลี่ยนไปทำการเรียนการสอนทางออนไลน์ การเรียนผ่านแอพลิเคชั่นวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในปริมาณมาก เพื่อที่จะประหยัดเงิน นักศึกษาหลายคนจึงไม่ได้สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตในอพาร์ตเมนต์ แล้วใช้โทรศัพท์มือถือแทน นั่นหมายความว่าการเปลี่ยนไปเรียนทางออนไลน์จะทำให้พวกเขาใช้งานจนถึงขีดจำกัดการใช้ข้อมูล และต้องเสียค่าธรรมเนียมที่สูง