SHARE

คัดลอกแล้ว

สมช.มีมติให้ขยายเวลา พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน แจงจะมีการผ่อนปรมมาตรการระยะ 3 เดือน มิ.ย.นี้ หวั่นโควิด-19 ระบาดซ้ำ ไทยต้องไม่ประมาท 

วันที่ 21 พ.ค.2563 พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 และสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19

พล.อ. สมศักดิ์ กล่าวว่า แม้ในห้วงระยะที่ผ่านมารัฐบาลจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นต่าง ๆ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อันจะช่วยบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายเศรษฐกิจ เพื่อชะลอ ควบคุม และป้องกัน การแพร่ระบาดในราชอาณาจักรของโรคโควิด-19  มิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้นและมีผลการดำเนินการที่ประสบผลสำเร็จได้ตามเป้าหมายเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังคงไม่สิ้นสุด โดยมีข้อมูลว่าหลายประเทศยังคงมีการระบาดและมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูง และเมื่อได้ผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการควบคุมแล้วกลับพบการระบาดของโรคระลอกใหม่ในระดับรุนแรง ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่การปฏิบัติงานของรัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการชะลอ ควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดในราชอาณาจักรของโรคโควิด-19 จะยังต้องสามารถดำเนินการต่อไปให้ได้อย่างมีเอกภาพ รวดเร็ว มีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยและการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนเป็นสำคัญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ที่ประชุมเห็นว่าอำนาจตามพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ยังคงมีความจำเป็นและจะต้องมีการบังคับใช้ต่อไปอีกห้วงระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ เนื่องจากหากนำกฎหมายฉบับอื่นมาใช้บังคับแทน อาทิ พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2548 ที่ให้ความสำคัญกับมาตรการทางสาธารณสุขเป็นสำคัญเพียงด้านเดียว อาจจะทำให้เกิดการให้ความสำคัญกับด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไปในการบูรณาการกับภาคส่วนอื่น ๆ อีกทั้งยังพบข้อจำกัดในการดำเนินการ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความเป็นเอกภาพและความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกลไกตามกฎหมายดังกล่าวจะให้อำนาจแก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครภายใต้รูปแบบของคณะกรรมการสามารถใช้ดุลพินิจเพื่อบังคับใช้กฎหมายภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบของตนได้อย่างอิสระ ดังนั้นหากมีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อาจส่งผลให้เกิดแนวปฏิบัติที่หลากหลายขึ้น ในแต่ละพื้นที่ จนทำให้ขาดมาตรฐานกลาง มีความซ้ำซ้อน และขาดความชัดเจนรวมทั้งไม่เป็นเอกภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ต้องปฏิบัติการตามกฎหมายได้

หากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้ส่งผลเสียหายต่อประชาชนและภาครัฐมีความจำเป็นจะต้องเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะไม่สามารถกำหนดแนวทางการเยียวยาได้อย่างบูรณาการและครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงในภาพรวมของประเทศอีกด้วย ในขณะที่การใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จะกำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใช้อำนาจตามกฎหมาย ทำให้มีความต่อเนื่องและเจ้าหน้าที่ได้รับอำนาจอย่างเพียงพอในการปฏิบัติงานดังเช่นในปัจจุบันแล้ว ยังส่งผลให้การปฏิบัติงานมีความรวดเร็ว เป็นเอกภาพ และมีบทลงโทษที่ส่งผลเชิงจิตวิทยา นอกจากนี้ รัฐยังสามารถกำหนดแนวทางเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนได้อย่างครอบคลุมและเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอีกด้วย โดยเหตุผลดังกล่าว ที่ประชุมจึงเห็นควรเสนอให้มีการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อป้องกันและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป อีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2563

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า