จีนเตือนสหรัฐเรื่องความสัมพันธ์ ทำเสี่ยง “สงครามเย็น” รอบใหม่

วันที่ 24 พ.ค. สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า หวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและ รมว.ต่างประเทศของจีน แถลงข่าวนอกรอบการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติประจำปี ว่า ประเทศจีนจะเดินหน้าฟื้นฟูชาติอย่างที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้มากยิ่งกว่าที่เคย หลังจากการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในครั้งนี้

นอกจากนี้หวังอี้ยังตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับองค์กรทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศในการหาแหล่งต้นตอของเชื้อไวรัส โดยดำเนินการแบบมืออาชีพ

“ประวัติศาสตร์ควรถูกเขียนขึ้นด้วยข้อเท็จจริงและความจริง รวมถึงไม่ควรถูกชี้นำอย่างผิดๆ หรือเจือปนด้วยความเท็จ”

เขายังระบุถึงกรณีที่ สหรัฐอเมริกา โจมตีจีนในเรื่องนี้่ด้วยว่า โควิด-19 เป็นศัตรูร่วมกันของจีนและสหรัฐฯ และประชาชนของทั้ง 2 ประเทศล้วนมีความหวังเดียวกันคือการสนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จึงควรแบ่งปันประสบการณ์ในการต่อสู้กับโรคระบาด และเรียนรู้จากกันและกัน เพื่อส่งเสริมการรับมือกับโรคระบาด ทั้ง 2 ประเทศควรปฏิบัติตามความคาดหวังของสังคมโลก ในการเข้าร่วมและส่งเสริมความร่วมมือระดับพหุภาคีในการต่อต้านโรคโควิด-19 และมีบทบาทในเชิงบวกในการรับมือโรคระบาดทั่วโลก

“ขณะที่เรากำลังเตรียมตัวต่อสู้กับโรคโควิด-19 ทั้งในระยะยาวและเป็นวิถีปกติ ทั้ง 2 ประเทศควรเริ่มต้นร่วมมือและติดต่อกันในด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาคโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโรคโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายตลอดจนเศรษฐกิจโลก”

ขณะที่ วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า หวังอี้ กล่าวตอนหนึ่งด้วยว่า สหรัฐอเมริกาควรละทิ้งความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศจีน และหยุดการผลักให้ทั้ง 2 ประเทศ ตกอยู่ในภาวะสงครามเย็นครั้งใหม่ ซึ่งมาจากบทบาทกลุ่มอิทธิพลการเมืองบางกลุ่มของสหรัฐ โดยคาดว่าน่าจะหมายถึงบทบาทประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่วิจารณ์จีนอยู่เสมอ