“วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์” วีรันดากับองค์กรปลาเร็ว ที่มั่นใจว่าคนจะกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง

“โควิด-19” คลื่นยักษ์ลูกใหญ่ที่กำลังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ทุกอย่างในอนาคตเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นในทุกแวดวง แบบที่ว่าไม่มีเวลาให้เตรียมตัว เตรียมใจเท่าไหร่นัก เมื่อหยุดการเดินทาง งดท่องเที่ยว เว้นระยะห่างทางสังคม แน่นอนว่าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ 100% คืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

“กระทบเต็มๆ นะครับ โรงแรมก็ปิดไปหมดทุกที่ ตอนแรกก็คิดว่าโควิดจะอยู่แค่เมืองจีน ตอนหลังก็กระจายไปทั่วโลก” เป็นคำตอบแรกที่ คุณบุ๊ค วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ CEO บมจ.วีรันดา รีสอร์ท เปิดเผยถึงผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ต่อธุรกิจโรงแรมที่เขาก่อตั้งขึ้น

บมจ.วีรันดา รีสอร์ท ภายใต้การบริหารของ “วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรม ประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ทในประเทศไทย 5 แห่ง, กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย โครงการอาคารชุดพักอาศัยประเภทเรสซิเดนซ์ ติดกับรีสอร์ท และกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ประกอบด้วย ร้านประเภทอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ที่ ได้สร้างสรรค์รายการอาหารและขนมหวานใหม่ๆ อันเป็นเอกลักษณ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย

วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)

เส้นทางของวีรันดา 16 ปี กับ 5 โรงแรม

วีรวัฒน์ เล่าว่า เขาสนใจทำธุรกิจโรงแรม จากการเริ่มเห็นเทรนด์ ฮิปโฮเทล ฮิปรีสอร์ท ซึ่งในเมืองไทยตอนนั้นยังไม่มี จึงใช้เวลาศึกษาอย่างจริงจัง 1-2 ปี พร้อมๆ กับตระเวนดูโลเคชั่นเพิ่มเติม ทดลองเข้าพักตามโรงแรมต่าง ๆ ในพื้นที่ด้วยตัวเอง เพื่อศึกษาคู่แข่ง จนในปี 2547 เขาก็ตัดสินใจเปิดให้บริการโรงแรมแห่งแรกในนาม “วีรันดา รีสอร์ท หัวหิน”

ด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งมีห้องพักให้บริการทั้งในรูปแบบห้องพักทั่วไปจำนวน 98 ห้อง และ Pool Villa จำนวน 12 ห้อง จำนวนรวมทั้งสิ้น 110 ห้อง

ถัดจากนั้น 4 ปี เปิดโรงแรมแห่งที่ 2 ในนาม “วีรันดา เชียงใหม่ เดอะ ไฮ รีสอร์ท” พร้อม ๆ กับเริ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างและเปิดขายอาคารชุดพักอาศัยแห่งแรกในนาม “วีรันดา ไฮ เรสซิเดนซ์ เชียงใหม่”

ปี 2555 โรงแรม “โซ แบงค็อก” โรงแรมระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพฯ จำนวน 237 ห้อง และปี 2558 เข้าซื้อกิจการโรงแรม “ร็อคกี้ บูติค รีสอร์ท” ขนาด 50 ห้อง ที่เกาะสมุย และเปิดโรงแรม วีรันดา รีสอร์ท พัทยา ขนาด 145 ห้อง

ระหว่างทางที่ดำเนินธุรกิจโรงแรม วีรวัฒน์ได้วางแผนบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ ควบคู่กับการเปิดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่ใกล้กับโรงแรมดำเนินกิจการอยู่ เขาบอกว่า จุดนี้ทำให้เขาได้ใช้ความรู้และประสบการณ์เคยทำธุรกิจก่อสร้างกับครอบครัว ในฐานะทายาทคนสุดท้องของ “วิวัฒน์ก่อสร้าง” บริษัทที่เคยมีผลงาน “สนามราชมังคลากีฬาสถาน”

“ในวัยเด็กผมก็อยากประสบความสำเร็จ เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ อันนั้นเป็นเป้าหมายไกลๆ นะครับ ตอนนั้นก็มองว่าเริ่มช่วยคุณพ่อเรื่องธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทำไปสักพักมันเหมือนมันไม่ใช่ทางเราซะทีเดียว แต่เราก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากการก่อสร้างที่เอามาเรียนรู้ได้ในปัจจุบัน”

เมื่อแบรนด์วีรันดา เริ่มได้รับความนิยมในหมู่คนไทยค่อนข้างมาก วีรวัฒน์ก็มองว่าในที่ดินบางแปลงที่มีพื้นที่เหลือ ยังสามารถนำพัฒนาเป็นเรสซิเดนซ์ หรือ คอนโดมิเนียมได้ โดยใช้บริการของรีสอร์ทมาสนับสนุน ทำให้เป็นจุดต่างที่ลูกค้ามาเลือกซื้อคอนโดมิเนียมวีรันดา

“เรสซิเดนซ์ที่พัทยาวันนี้ขายไปเกือบ 100% โอนไปเกือบหมดแล้วนะครับ วันนี้เราก็เริ่มโอนที่หัวหินแล้ว ก็เป็นการกระจายความเสี่ยงไปสู่โมเดลที่โรงแรมมักจะคืนทุนช้า ก็จะมีโมเดลที่เป็นเรสซิเดนซ์มาเสริม ทำให้ผลตอบแทนเร็วขึ้น ก็คือมีการคืนทุนในส่วนของเรสซิเดนซ์ขึ้นมาก่อน”

แผนกระจายความเสี่ยงในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกส่วนธุรกิจที่สำคัญ ที่วีรวัฒน์ยอมรับว่า ช่วยให้ผลประกอบการในภาพรวมของวีรันดาไตรมาส 1 ปี 2563 เป็นตัวเลขบวก เพราะมีตัวเลขการโอนของเรสซิเดนซ์เข้ามา การกระจายความเสี่ยงที่ทำไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ก็มาออกดอกออกผลในช่วงโควิดนี้ ทำให้ไม่ได้ติดลบอะไรมาก จึงเป็นบทพิสูจน์วิสัยทัศน์ของผู้นำวีรันดา ได้เป็นอย่างดี

“วีรันดา รีสอร์ท หัวหิน” โรงแรมแห่งแรกของวีรันดา เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ.2547 

โชคดีเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เร็ว มีทุนหนาขึ้น ประคองธุรกิจได้

เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นหลังก่อตั้งบริษัทมากว่า 15 ปี วีรวัฒน์ได้พาวีรันดา สร้างโอกาสบนโลกการลงทุนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน ในปี 2561 ด้วยมูลค่าตลาดขณะนั้นกว่า 3,000 ล้านบาท แม้ในช่วงโควิดบริษัทได้รับผลกระทบปิดโรงแรมชั่วคราวทั้งหมดครั้งแรก นับตั้งแต่เปิดให้บริการมา จนมูลค่าตลาดลดลงเหลือ 2,000 ล้านบาท แต่วีรวัฒน์มองว่า โรงแรมบางส่วนที่ต้องปิดเพื่อรักษาสภาพคล่อง กับรักษาต้นทุนให้ต่ำก็ต้องทำ ซึ่งเป็นความโชคดีที่สามารถนำพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เร็ว ก่อนคลื่นลูกใหญ่จะมาทำให้มีทุนที่หนาขึ้น และประคองธุรกิจให้พร้อมเดินหน้าต่อได้

“จะเรียกว่าโชคนิดหน่อยก็ได้นะครับ เพราะว่ามันเป็นการปรับโครงสร้างทุนไปแล้วเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้มีทุนที่หนาขึ้น ปีที่แล้วเรายังไม่ได้ลงทุนอะไรมาก ก็อาจจะเป็นโชคอีกทีนึง ที่เราพยายามจะหาโอกาสไม่ได้จบดีล ทำให้ไม่มีการลงทุนที่เยอะเกินไปนะครับ ทำให้โครงสร้างทุนในปัจจุบันอยู่ในสภาพคล่องที่ผมว่าเพียงพอ ผมว่าเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตหลังจากพ้นโควิดด้วยซ้ำไป”

แม้จะมีทุนหนา แต่การบริหารต้องไม่ประมาท ต้องพยายามลดต้นทุน รักษาสภาพคล่อง วีรวัฒน์ย้ำว่า “องค์กรต้องไม่มีไขมันในส่วนที่เกิน” ต้องมีแผนกลยุทธ์ที่พร้อมจะโตได้อย่างรวดเร็ว หลังจากวิกฤติที่ผ่านไปแล้ว และต้องสื่อสารให้ทุกเข้าใจในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการสื่อสารกับผู้ถือหุ้น

“ผมว่าเป็นเรื่องของการบาลานซ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ว่าในวันที่เราเหนื่อย ทุกคนต้องทราบว่าเหนื่อยพร้อมๆ กัน รวมทั้งพนักงาน ธนาคารเองก็ได้รับสนับสนุนจากรัฐบาลสภาพคล่อง เป็นอะไรที่อยู่ในวิกฤติก็ต้องบริหารผ่านไป”

งัดกลยุทธ์การตลาดตอบโจทย์ลูกค้า ออก Voucher 500 บาท พักโรงแรมหรู

การจับเทรนด์และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคของวีรวัฒน์ ยังคง “คม” เสมอ เขาเลือกจังหวะที่คนอยู่บ้านนาน อัดอั้นจนอยากออกท่องเที่ยว มาออกแคมเปญแรกของบริษัท “Veranda 4X Voucher” เหมาะกับผู้บริโภคสมัยใหม่ มีความยืดหยุ่นสูงมาก จ่ายเพียง 500 บาท นำไปลดค่าห้องพักโรงแรมสุดหรู ที่หัวหิน พัทยา และเชียงใหม่ ได้ มูลค่า 2,000 บาทต่อห้อง ต่อคืน เรียกได้ว่ามีมูลค่าถึง 4 เท่า หวังเอาใจฐานลูกค้าคนไทย ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของหัวหิน และพัทยา ไม่ต้องลงทุนจ่ายแพง สะดวกเมื่อไหร่ ก็ใช้เมื่อนั้น โดยเข้าพักได้ถึง 31 ธ.ค. 2563

“ผมว่าการที่เราทำ Voucher 500 บาท ไม่มีที่ไหนทำ หรือไม่ได้เอาห้องราคา มาตัดราคาแรงๆ จนรู้สึกเสียมูลค่าภาพลักษณ์ของโรงแรมไป ผมว่าอันนี้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่ไม่อยากจ่ายเยอะ แล้วต้องการความยืดหยุ่นสูง”

“นักธุรกิจบางคนอาจจะมองว่าเป็นการเก็บเงินสด วันนี้ต้องกระโดดมาเก็บเงินสด ผมว่าอันนั้นอาจจะอีกอุตสาหกรรมนึง แต่วันนี้ผมว่าเราต้องทำความเข้าใจผู้บริโภคมากกว่านั้นนะครับ Voucher ผมทำมานานทำตั้งแต่ไปออกงานศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และขายทางเว็บไซต์ ซื้อ 4 แถม 1 ซื้อเท่านั้นได้เท่านี้ ทำมาเยอะมาก แต่วันนี้สิ่งที่ผมจะเสนอครั้งนี้ ผมเชื่อว่าเราต้องทำให้ต่างและเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง”

วีรันดา เชียงใหม่ เดอะ ไฮ รีสอร์ท 

การท่องเที่ยวเป็น Pre Normal เชื่อว่าคนจะกลับมาเที่ยวอีก หลังมีวัคซีน

เมื่อโควิด-19 เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตผู้คนทั่วโลก จนหลายคนพูดถึงฐานวิถีชีวิตใหม่ New Normal แต่มุมมองของวีรวัฒน์เชื่อว่า ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น เป็นแค่ช่วง Pre Normal เท่านั้น และคนจะกลับมาเที่ยวแน่นอน เพราะอยากผ่อนคลาย เพราะอยู่บ้านนาน

“ผมเชื่อว่าภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนะครับ ผมเชื่อว่าเมื่อมีวัคซีนมันจะกลับไป Normal เลย ผมเชื่อว่าชั่วโมงนี้วัคซีนอาจจะ 6 เดือน หรือปีนึง ปีครึ่ง อะไรก็แล้วแต่จะเป็นช่วงที่เรียกว่า Pre Normal นะครับ คือก่อนที่จะกลับไป Normal”

ผู้นำองค์กร ยุคโควิด ต้องมี “Multi Skills”

คลื่นเศรษฐกิจลูกใหม่ ที่เป็นผลพวงจากโรคภัยไข้เจ็บที่ระบาดไปทั่วโลก “ความคมในการตัดสินใจ และความรวดเร็วในการปรับตัว” เป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก ที่วีรวัฒน์ย้ำว่าผู้นำองค์กรต้องมี เพื่อเป็นแม่ทัพนำพาธุรกิจและลุกน้องให้อยู่รอดได้ เช่นเดียวกับคุณสมบัติภาวะผู้นำ (Leadership) ที่เข้ามาทำในจังหวะที่ธุรกิจมีปัญหา ต้องเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ที่ทำอย่างไรให้มันรอด

อีกทั้งต้องรอบรู้หลายเรื่องพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การบริหารคน หรือมีมือบริหารเก่งๆ เข้ามาช่วยสนับสนุน และก็เรื่องบริหารผู้จัดหาสินค้า เรียกว่าใช้ทุกทักษะที่มี Multi Skills เพื่อให้ผ่านวิกฤติไปได้ และเรื่องของ Team work ก็เป็นอะไรที่สำคัญ ต้องมีคนที่ฟังก์ชั่นได้ในจังหวะวิกฤติแบบนี้ ทีมต้องมีเป้าหมาย (Goal) เดียวกัน ยอมเสียสละเพื่อให้บริษัทรอด และทุกคนจะรอดไปด้วยกัน

“การบริหารองค์กร ก็อยากให้มีองค์กรมีความยั่งยืน อยากให้เหมือนทีมฟุตบอล ทีมอะไรที่ผู้เล่นจำกัด แต่ทุกคนต้องฟิตในการเล่นสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นว่าอายุเยอะที่สุด จะได้ผลตอบแทนเยอะที่สุด แล้วได้เล่นเสมอต้องเอาตำแหน่งนั้นในที่ Perform ดีที่สุดได้เล่น เพราะผู้เล่นมีจำกัด เราไม่อยากให้คนมันเยอะเกินไป เราต้องเป็นองค์กรที่ Lean แต่สามารถ Perform ได้ ในสถานการณ์ที่เข้มข้นเราก็ต้องมีผู้เล่นใหม่ที่จะตื่นตัว ลงไปเล่นเพื่อให้มีประสิทธิผลสูงสุด สม่ำเสมอนะครับ”

วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ และวิวจากห้องประชุมบริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ชั้น 27 ของอาคารรสาทาวเวอร์ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร

องค์กร “ปลาเร็ว” ไม่พอแล้ว แต่ต้อง “ปลารอด” ด้วย

เมื่อ 2-3 ปีก่อน วีรวัฒน์เคยเปรียบเทียบ วีรันดาเป็น “องค์กรปลาเร็ว” ที่มองหาโอกาสและจังหวะบนโลกการลงทุนได้ไวเสมอ ทั้งขยายพอร์ตการลงทุน มองหาทำเลยุทธศาสตร์เปิดโรงแรมใหม่ สร้างเรสซิเดนซ์ขาย หรือร้านอาหารต่างๆ แต่ ณ วันนี้เขาบอกว่า “ปลาเร็ว ไม่พอแล้ว ต้องเป็นปลาที่รอดด้วย” บางจังหวะที่ต้องนิ่ง ก็ต้องนิ่ง เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน ส่วนที่ต้องเดินหน้าต่อเช่น ฝ่ายขายและตลาด ต้องต้องวิ่งไม่มีหยุด เพื่อวางสรรพกำลังให้พร้อมทุกเมื่อ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคได้ตรงจุด และทันเวลา ทั้งในยามวิกฤติและเมื่อกลับมาเป็นปกติแล้ว

“ผมมองคลื่นลูกต่อไปเลยดีกว่า มันจะมีปลาตายอยู่ ทำยังไงให้เรารอดก่อน แล้วอาหารที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้น ตัวเราจะโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีคนที่ไม่รอด วันนี้ผมมองว่าจะต้องเป็น ปลาที่เร็ว และทำตัวเองให้รอดอย่างแข็งแรง แล้ววันนั้นเราจะได้รับประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ กับคู่แข่งที่น้อยลงนะครับ”

ข้อมูลเพิ่มเติม: 

“วีรันดา” โรงแรมที่ใช้การออกแบบ เพื่อประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า ทุกครั้งที่มา