
จากกรณีที่ ส.ว. 90 คน เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตามรัฐธรรมนูญ 2557 ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. ในขณะนั้น ขณะที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 108 บัญญัติไว้ว่า สมาชิกวุฒิสภาจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ข. คือ (1) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา 98 (17) (3) เป็นหรือเคยเป็น ส.ส. เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็น ส.ส.มาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือก (9) เคยดํารงตําแหน่ง ส.ว.
กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ในกรณีการขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามไว้ในการบังคับใช้กฎหมายโดยชัดแจ้ง
รัฐธรรมนูญที่ยกขึ้นอ้างอิงทั้งสองฉบับข้างต้นได้อธิบายคำความหมายในเรื่องอำนาจของสภานิติบัญญัติแห่งชาติไว้ในบทบัญญัติไปในทำนองเดียวกันว่า สนช.เป็นผู้ทำหน้าที่เป็น ส.ส. หรือ ส.ว. ตามลำดับ เท่ากับว่าสนช. เป็น ส.ส.หรือ ส.ว.โดยตำแหน่ง มีอำนาจหน้าที่เฉกเช่นเดียวกันกับอำนาจของ ส.ส.หรือ ส.ว.ทุกประการตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้

ทั้งนี้ การยื่นหนังสือดังกล่าวเป็นการต่อยอดจากการยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภาเพื่อคัดค้านการเสนอชื่อ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข อดีต สนช.นั่งตำแหน่งกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะมีข้อกำหนดว่าต้องพ้นจากการเป็น ส.ส.หรือ ส.ว. เป็นระยะสิบปีก่อนการสรรหา แต่มีข้อถกเถียงว่า สนช. เทียบเท่ากับการเป็น ส.ส. หรือ ส.ว.หรือไม่