สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) ออกมาประกาศว่า จะไม่ยอมขอโทษหรือเปลี่ยนแปลงผลโพลล์ล่าสุด ที่ยกให้ โจ ไบเดน ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำ โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ 14% แม้จะมีจดหมายแจ้งเตือนจากทีมหาเสียงของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ว่าให้ยุติการเผยแพร่ก็ตาม
บนหน้าเว็บไซต์ของซีเอ็นเอ็น ได้มีการลงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนว่าต้องการให้ใครเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยระบุว่าจากการสำรวจในช่วงวันที่ 2-5 มิถุนายน มีคนโหวตให้ไบเดนเป็นสัดส่วน 55% และทรัมป์ได้ไป 41%
นอกจากผลดังกล่าวที่ทาง CNN ทำร่วมกับ ssrs บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจความคิดเห็นแล้ว บนหน้าเว็บดังกล่าวยังมีการลงผลโพลล์จากสำนักอื่นอีกกว่า 10 สำนัก โดยมีการลงย้อนหลังพร้อมกับระบุช่วงเวลาที่ทำการสำรวจอย่างชัดเจน ซึ่งแต่ละสำนักก็ยกให้ไบเดนเป็นผู้นำเกือบทั้งหมด
Official response from CNN General Counsel to @TeamTrump‘s letter demanding CNN apologize for a poll that shows @JoeBiden leading. pic.twitter.com/pQaGPxsA0y
— CNN Communications (@CNNPR) June 10, 2020
หลังจากที่ทางสำนักข่าวรายนี้อ้างว่าได้รับจดหมายเตือนจากบริษัทกฎหมายที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทนของทีมหาเสียง พวกเขาก็ได้ลงจดหมายตอบกลับบนเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น และทวิตเตอร์ @CNNPR โดยระบุว่า ตลอด 40 ปีที่รายงานข่าวมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาถูกขู่ดำเนินคดีโดยนักการเมืองอเมริกาที่ไม่ชอบใจกับผลโพลล์ที่ออกมา ก่อนหน้านี้เคยมีเพียงคำขู่จากผู้มีอำนาจในประเทศอย่างเวเนซูเอลา และประเทศอื่น ๆ ที่มีความเคารพต่อการทำข่าวอย่างอิสระน้อยมากจนถึงไม่มีเลย
ในตอนท้ายของจดหมายฉบับนี้ที่ลงชื่อโดย เดวิด วิจิลันเต รองประธานบริหารและที่ปรึกษาทั่วไปของซีเอ็นเอ็น ก็ได้ตอบอย่างชัดเจนว่า พวกเขาปฏิเสธคำขอดังกล่าว ซึ่งปราศจากทั้งข้อเท็จจริงและมูลความผิดทางกฎหมาย เป็นเพียงความพยายามที่จะปิดบังข้อมูลที่ไม่ต้องการให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเห็นหรือได้ยินเท่านั้น