Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลากว่า 22 วันแล้วที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ล่าสุดยอดป่วยสะสมอยู่ที่  3,135 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่มอีก 6 ราย รวมทั้งหมด 2,993 ราย เหลือรักษาในโรงพยาบาลเพียง 84 ราย

พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19

วันที่ 16 มิ.ย.2563 พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 6 ราย ยอดผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 2,993 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.47 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 84 ราย หรือร้อยละ 2.68 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,135 ราย
สถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ของประเทศไทยขณะนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และยังคงทยอยเดินทางกลับมาอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลได้มีการกำหนดจำนวนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศอย่างเหมาะสมเพื่อการบริหารจัดการสถานที่เฝ้าระวังกักตัวและการดูแลของบุคลากรทางการแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จากข้อมูลผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้ารับการเฝ้าระวังในสถานที่รัฐจัดให้ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคของกรมควบคุมโรค ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึง 15 มิถุนายน 2563 มีคนไทยเข้ารับการเฝ้าระวังกักตัวสะสม 28,574 ราย โดยในวันนี้จะมีคนไทยเดินทางกลับจากประเทศแอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น อุซเบกิสถาน และกาตาร์ รวม 545 ราย
ภายหลังรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 (15 มิถุนายน 2563) ให้ยกเลิกการจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน อนุญาตร้านอาหารสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ จึงมีประชาชนบางส่วนออกมารวมกลุ่มสังสรรค์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยว เช่น สวนสัตว์ สวนน้ำ มีผู้เข้าใช้บริการจำนวนมาก บางแห่งเกิดความแออัด ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงสำคัญที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ความร่วมมือผู้ประกอบการและประชาชนมีส่วนสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 โดยผู้ประกอบการ จะต้องจัดระบบคัดกรองผู้เข้ารับบริการ บริหารจัดการพื้นที่เพื่อลดความแออัด จัดลงทะเบียนผู้ที่เข้าใช้บริการเข้า – ออกพื้นที่ ผ่านแพลทฟอร์มและแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ที่ภาครัฐจัดทำขึ้น เพื่อนำไปพัฒนากิจการและสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรฐาน และหากพบผู้ติดเชื้อ กรมควบคุมโรคจะใช้เป็นข้อมูลในการติดตามผู้สัมผัสเพื่อนำเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ส่วนประชาชนขอให้ตระหนักและระมัดระวังตนเองมากขึ้น ออกนอกบ้านทุกครั้งต้องสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า งดการเอามือสัมผัสใบหน้า จมูก ปาก พกแอลกอฮอล์เจลล้างมือ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการเข้าไปสถานที่แออัด คนรวมกันมากๆ เพื่อความปลอดภัย หากมีไข้หรืออาการทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม หอบเหนื่อยให้หยุดพักรักษาตัว ไม่ออกไปในที่สาธารณะ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์ตรวจรักษา

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการสำรวจประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในระหว่างมาตรการผ่อนปรน ผ่านช่องทางออนไลน์ ว่า ผลการสำรวจล่าสุดในสัปดาห์ที่ 4 (วันที่ 29 พ.ค. – 4 มิ.ย. 2563) จำนวน 15,866 ตัวอย่าง พบว่า ภาพรวมประชาชนมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองร้อยละ 75.7 โดยด้านการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยสูงถึงร้อยละ 91.5 ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ร้อยละ 83.9 กินอาหารร้อนใช้ช้อนกลางของตนเองร้อยละ 83.7 เว้นระยะห่างร้อยละ 66 และระมัดระวังไม่เอามือจับหน้า จับจมูก ร้อยละ 58.8

สำหรับการปฏิบัติตามแนวทางเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร เมื่อเทียบกับ 1 เดือนที่ผ่านมาผลการสำรวจพบว่าลดลง แต่การหลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่าหากผู้ประกอบการ/เจ้าของกิจการสนับสนุนหรือปฏิบัติตามแนวทางการเว้นระยะห่างทางสังคม ประชาชนจะให้ความร่วมมือเพิ่มขึ้น จึงขอความร่วมมือสถานประกอบการทุกแห่งให้เข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนร่วมมือ “ผ่อนคลายกันต่อไป ถ้าคนไทยการ์ดไม่ตก” และหากประชาชนพบเห็นว่าสถานที่ใดยังไม่ปฏิบัติตามหรือลดความเข้มข้นลงไป สามารถประเมินผลกลับมาผ่านระบบไทยชนะ โดยทีมผู้พิทักษ์ไทยชนะจะลงไปเยี่ยมสถานประกอบการนั้นเพื่อตรวจสอบและประเมินให้ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดให้ได้

ส่วนข้อห่วงใยประชาชนกรณีมีรายงานข่าวผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากในตลาดสดในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กรมอนามัยได้มีคำแนะนำไปยังทุกตลาดสดให้ยึดปฏิบัติใน 12 มาตรการสำคัญ ประกอบด้วย 1.การคัดกรองผู้ใช้บริการ วัดไข้ ล้างมือ ลงทะเบียนก่อนเข้าตลาด 2.ผู้ขายสวมผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุมผม และผู้ขาย/ผู้ซื้อต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 3.อาหารปรุงสำเร็จต้องมีการปกปิดและใช้อุปกรณ์หยิบจับ 4.เว้นระยะห่างระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย 1-2 เมตร 5.หากมีไข้ต้องหยุดปฏิบัติงานแล้วไปพบแพทย์ทันที 6.จัดจุดล้างมือในตลาดและจุดประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง 7.ล้างแผงจำหน่ายอาหารสดและแผงเนื้อสัตว์ชำแหละทุกวัน 8.ฉีดน้ำล้างทางเดิน ทางระบายน้ำ เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก 9.ล้างตลาดสดตามหลักสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 10.กำจัดขยะอย่างถูกสุขลักษณะ 11.ฆ่าเชื้อโรคโดยใช้ผงปูนคลอรีน 60% เข้มข้น 100 ppm. ในอัตราส่วน 1 ช้อนชาต่อน้ำ 20 ลิตร ใส่ฝักบัวรดเป็นประจำ และ 12.ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อห้องสุขาสาธารณะเป็นประจำ

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุกแนวทางปฏิบัติที่กำหนดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชน เชื่อว่าผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการทุกแห่ง ยินดีร่วมมือกันปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ประชาชนผู้ใช้บริการก็ต้องช่วยกันประเมินผลผ่านระบบไทยชนะเพื่อรักษามาตรฐานตามเกณฑ์ให้คงอยู่ในระดับสูง เมื่อทุกคนช่วยกันการ์ดไม่ตก ย่อมเดินหน้าต่อไปด้วยกันได้อย่างดี

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า