ในวันที่ 23 มิถุนายน มีสื่อหลายสำนักรายงานข่าวเกี่ยวกับวัคซีนสำหรับสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด-19 ที่เริ่มทำการทดสอบกับมนุษย์ในหลายประเทศแล้ว
โดยทางรอยเตอร์ (Reuters) และ บลูมเบิร์ก (Bloomberg) ได้รายงานว่า มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ร่วมกับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ได้เริ่มนำวัคซีนของพวกเขาไปทดลองที่บราซิลแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีอาสาสมัครจำนวน 3,000 คน
สำหรับวันนี้ (23 มิ.ย.) ก็กำลังจะเริ่มทำการทดลองที่ประเทศแอฟริกาใต้อีก 2,000 คน โดยมีการระบุว่าอาสาสมัครจำนวน 50 คนเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วย
แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีมากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 7 ล้านคน แม้ว่าอาสาสมัครจะมีเชื้อที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน แต่ก็มีความจำเป็นต้องทดสอบเพื่อช่วยยืนยันว่าวัคซีนสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในทุกส่วนของประชากร
ทางทีมวิจัยของอ็อกซ์ฟอร์ดหวังว่าจะทำการเปิดตัววัคซีนได้ภายในสิ้นปีนี้
ขณะที่อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน ก็ได้ออกมาประกาศบนเว็บไซต์ของทางมหาวิทยาลัยว่า ได้มีการทดสอบวัคซีนของพวกเขากับอาสาสมัครที่มีสุขภาพปกติแล้ว โดยทางทีมวิจัยเผยว่า เป็นการทดสอบครั้งแรกโดยใช้วัคซีนแบบ self-amplifying RNA (saRNA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยปฏิวัติวงการพัฒนาวัคซีนและทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถตอบสนองต่อโรคระบาดชนิดใหม่ได้ดีขึ้น
หลังจากฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว อาสาสมัครต้องรออีก 4 สัปดาห์จึงจะสามารถฉีดกระตุ้นอีกรอบได้ โดยทางทีมวิจัยจะเริ่มต้นทดสอบขั้นแรกจำนวน 15 คน ก่อนจะเพิ่มเป็น 300 คนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และขยายการทดสอบในกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นอีกภายในช่วงปลายปี