SHARE

คัดลอกแล้ว

“ผมเป็นคนชอบรถเมล์มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่จำความได้ ตอนเด็กๆ เวลามีใครถามว่าอยากเป็นอะไร ก็อยากเป็นคนขับรถเมล์” โอม ชาลี วงศ์พันธุเศรษฐ์  หนุ่มวัย 29 ปี ที่หลายคนรู้จักเขาในอาชีพพนักงานขับรถเมล์ ของรถร่วมเอกชน สาย 1 ชาลี เล่าวว่า ตอนเด็กเวลาที่พ่อแม่พานั่งรถออกจากบ้านไปก็เจอรถเมล์ ก็ชอบมอง และบางครั้งก็ได้ขึ้น จนเกิดความชื่นชอบและฝันว่าวันหนึ่งเขาจะต้องเป็นคนขับรถเมล์ให้ได้ พอโตมาก็ได้เจอกลุ่มเพื่อนที่ชอบรถเมล์ด้วยกันทำให้มีโอกาสได้เข้าไปทำจริงๆ

เริ่มต้นจากกระเป๋า สู่คนขับ ทำมาแล้ว 12 ปี ชาลี บอกว่า เข้าไปทำงานรถเมล์ตอนอายุ 17 ตอนนั้นเป็นกระเป๋ารถเมล์ “ซึ่งอู่ที่ไปช่วงปิดเทอมจะมีเด็กไปทำงานเป็นกระเป๋า ทีนี้พอเรารู้ว่าเขารับก็ไปสมัครปกติเลยครับ ตอนนั้นก็ทำเฉพาะช่วงปิดเทอมก่อน แต่พอเปิดเทอมก็ขอคุยกับเขาว่า ทำในวันหยุดได้ไหม วันเสาร์แบบนี้ครับ ก็เลยทำมาตลอด เวลาเราเข้าไปเป็นกระเป๋า ถือเป็นโอกาสที่เราได้จับรถ ลูกพี่หรือคนขับเขาก็จะสอนเราอยู่แล้ว ได้เลื่อนรถ ได้ขับรถ ได้เติมก๊าซอะไรอย่างนี้ครับ แล้วพออายุถึงผมทำใบขับขี่ได้ผมขึ้นเป็นคนขับได้เลย พอจบมาแล้วก็ยังชินกับการไปทำงานรถเมล์ทุกวันเสาร์อยู่ ก็คือทำจนถึงทุกวันนี้ครับ” เขากล่าว

งานขับรถเมล์ ทำแค่เฉพาะวันเสาร์ จันทร์ถึงศุกร์ทำงานออฟฟิศ ชาลีบอกว่าปกติทำงานอยู่ในบริษัท Hospitality Management Company  ปกติก็ไปทำงานออฟฟิศเวลาปกติ ตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง จนถึง 6 โมงเย็น เลิกงานก็ใช้ชีวิตปกติ กินข้าว นัดเพื่อน ออกกำลังกาย ส่วนวันเสาร์ก็จะไปขับรถเมล์ แล้ววันอาทิตย์ก็เป็นวันพักผ่อน 1 วัน

รถเมล์ คือ Safe Zone ได้ขับแล้วมีความสุข “ผมไม่รู้ว่าถ้าผมทำทุกวันมันจะแฮปปี้หรือเปล่านะ อาจจะเป็นเพราะเราทำอาทิตย์ละวัน เราก็เลยสนุกกับมัน ก็อาจจะเป็นอะไรที่เราชอบเราก็เลยอยู่กับมันได้ มันเป็นจุดที่เราอยู่แล้วเราไม่เครียด ไม่กังวล รู้สึกสบายใจ บางทีเราแบบถึงขนาดเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันเสาร์ที่เราได้ไปขับรถ เพราะเวลาขับมันเหนื่อยแหละ มันเหนื่อยแค่ร่างกาย พอตอนเช้าตื่นมาคือหายเหนื่อยละ แล้วทุกครั้งที่ขับรถมา ตื่นมาวันอาทิตย์จะสดชื่นมาก เพราะเหมือนกับว่าเราใช้พลังงานเยอะ เราเหนื่อยมากมันก็เลยหลับเต็มที่” ชาลีกล่าว

นอกจากได้ทำอาชีพที่รัก การขับรถเมล์ทำให้เขาได้ประสบการณ์บางอย่างที่อาจหาไม่ได้ในสังคมเมือง คือสังคมของเพื่อนร่วมงาน คนที่ขับรถเมล์ส่วนใหญ่ ไม่ได้น่ากลัว หรือว่าอะไรไม่ดีอย่างที่คนอื่นรู้สึก มันเป็นวิถีชีวิตอีกอย่างหนึ่ง ที่เด็กที่โตในกรุงเทพฯ ไม่เคยได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบเป็นชาวบ้าน เป็นหมู่บ้าน เจอกันเรียกกินข้าว ซึ่งในสังคมของคนขับรถเมล์มันเป็นบรรยากาศแบบนั้น ซึ่งทั้งหมดนี้คือจุดลงตัวในชีวิต จากการได้ทำสิ่งที่ชอบของชาลี “ในชีวิตเรา เรามีอะไรที่อยากทำอีกหลายอย่าง เราโอเค เราชอบตรงนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราอยากทำเป็นอาชีพหลักอย่างเดียว เพราะว่าเราก็มีความฝัน ก็มีอะไรอีกหลายอย่างที่เราอยากทำเหมือนกัน ผมรู้สึกว่าจุดที่เราอยู่ตรงนี้มันเป็นจุดที่ลงตัว เพราะว่าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบด้วย แล้วก็มีเวลาที่จะพักผ่อน มีเวลาที่จะทำอย่างอื่นที่มันก็น่าสนใจเหมือนกันครับ” เขากล่าวทิ้งท้าย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า