Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ในสายตาหลายคน วี วิโอเลต วอเทียร์ คือคนบันเทิงที่จับงานอะไรก็ทำได้ดีและมีเสน่ห์ เธอโดดเด่นในการเป็นนักแสดงขายฝีมือจากภาพยนตร์เรื่อง ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (2558) ความเซ็กซี่ในฐานะนางแบบของเธอยังทำให้ใครหลายคนชื่นชอบ นอกจากนั้นงานเพลงของเธอยังได้ชื่อมาตั้งแต่แจ้งเกิดจากเวทีประกวดร้องเพลง The Voice Thailand ซีซั่น 2 เมื่อปี 2556 แล้วว่าของดีมีคุณภาพ

วี วิโอเลต

หากใครติดตามผลงานของ วิโอเลต เป็นประจำคงจะทราบดีว่าต่อให้จะทำงานอื่นเยอะแยะ แต่เธอไม่เคยทิ้งงานเพลง และมักจะออกซิงเกิลใหม่เป็นระยะๆ 1 ในเพลงเด่นของเธอคือ Smoke ซึ่งมีเนื้อหาเปรียบเปรยความรักกับความสัมพันธ์และควันบุหรี่ หลังปล่อยให้ฟังครั้งแรกเมื่อปี 2561 ก็ฮิตติดชาร์ตไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ยังไปไกลถึงกัมพูชา ลาว สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนิเซีย มาเลเซีย และศรีลังกา

ถึงอย่างนั้น เธอกลับไม่มีโอกาสได้ทำอัลบั้มเต็มจนเสร็จสมบูรณ์ซะที แต่ในที่สุดเธอก็สามารถปิดบัญชีจนได้ ปล่อยอัลบั้มเพลงอัลบั้มแรกในชีวิตชื่อว่า Glitter and Smoke ออกมาให้ฟังเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนแล้วได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามในความติดหู

หากใครเป็นแฟนตัวยงของ วิโอเลต น่าจะพอคุ้นๆ ว่า อัลบั้มนี้ใช้ชื่อเดียวกับผลงานภาพยนตร์สั้นเรื่อง Glitter and Smoke ที่เธอโชว์ความสามารถทั้งนำแสดงเอง เขียนบทเอง และกำกับเองตอนยังเป็นนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนังได้เข้าฉายในเทศกาลหนังสั้นที่จัดโดยมูลนิธิหนังไทย เมื่อปี 2559 ด้วย ถือเป็น 1 ในหนังสั้นนิสิตนักศึกษาที่น่าชื่นชมไม่น้อย 

วี วิโอเลต

เมื่อเป็นหลักไมล์ความสำคัญต่อตัวเธอ ไม่มากไม่น้อยเธอจึงหยิบชื่อนี้มาใช้อีกครั้ง เพื่อนำเสนอตัวตนของเธอในโลกแห่งเสียงเพลง แง่มุมที่หลายคนอาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน

อัลบั้ม Glitter and Smoke ประกอบไปด้วย 9 เพลงที่นำเสนอความเป็น วิโอเลต ที่น่าสนใจ นอกจากเพลง Smoke ที่เคยปล่อยออกมาก่อน ในอัลบั้มยังมาพร้อมเพลงใหม่ฟังติดหูอีกหลายเพลงนำโดย I’d Do It Again ซึ่งว่าด้วยความรู้สึกอยากกลับไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์ในอดีตอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่งานของเธอได้รับฟีดแบ็คด้านบวก สามารถขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในหลายๆ ประเทศอีกครั้ง 

แต่ผลตอบรับที่ออกมาในครั้งนี้ น่าจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกมากที่สุด และเป็นงานที่ทำให้เธอเริ่มพูดได้ว่า พอจะประสบความสำเร็จอะไรบ้างแล้วในแวดวงบันเทิง “จริงๆ ตอนนี้มองว่า เห้ย ประสบความสำเร็จแบบหนึ่งแล้ว เรามีอั้ลบั้มแรกของเราแล้ว ภูมิใจมากค่ะ”

อาจฟังดูเหมือนถ่อมตัว แต่นั่นคือความคิดของเธอจริงๆ โดยเธอเปรียบเทียบกับตัวเองสมัยเข้าวงการเมื่อ 7 ปีแล้ว ว่าตัวเองเติบโตและได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากขึ้น บางเรื่องอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องรู้ ไม่ว่าจะเรื่องการทำเพลง การแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของธุรกิจการขายเพลง และการทำสัญญา

วี วิโอเลต

“เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันแรกที่เราไม่เคยรู้เลย วีว่าวีกำลังโตต่อหน้าทุกคนไปด้วย เรียนรู้การใช้ชีวิตไปด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทุกๆ คนเห็นมันก็คือตัวเราที่ค่อยๆ เติบโตไปเรื่อยๆ จะบอกว่าวงการเปลี่ยนเราไหม มันก็เปลี่ยนเรานะ มันหล่อหลอมเรา แต่มันไม่ได้เปลี่ยนเราเป็นคนละคน มันแค่เป็นสภาพแวดล้อมใหม่ของเรา ที่เราเรียนรู้ตามวัยของเราอยู่แล้ว”

แต่ถึงจะโตขึ้นแค่ไหน จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สิ่งที่เธอยืนยันก็คือ เธอรักในเสียงดนตรีและจะไม่มีวันเลิกรักเด็ดขาด

“ความรักที่เรามีให้เพลงมันแข็งแรงมากๆ เราให้ความรักกับสิ่งที่เราทำอยู่เต็มที่ตั้งแต่แรก เราแค่เรียนรู้ว่าเราจะทำมันยังไง โดยที่เรายังเก็บความรักที่เรามีให้มันอยู่เรื่อยๆ โดยที่เราไม่ลืมจน… จนมันกลายเป็นงาน เราต้องระลึกถึงสิ่งนี้ไว้ในใจเราเสมอ แล้วจำไว้ว่าโอเค นี่คือจุดเริ่มต้นของเรา”

วิโอเลต ย้ำอีกครั้งว่าเธอทุ่มเทความรักลงไปในการทำอัลบั้ม Glitter and Smoke อย่างสุดตัวและสุดใจ “เพราะวีแต่งเพลงเอง เรื่องราวมันก็มาจากของเราเอง ดนตรีก็ทำเองกับพี่โหน่ง (วิชญ วัฒนศัพท์) ที่เป็นโปรดิวเซฮร์ให้วี เพราะฉะนั้นมันเป็นวี 100%”

วี วิโอเลต

สำหรับแนวทางในการทำเพลง วิโอเลตบอกว่าไม่มีแนวตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือฟังแล้วจะสามารถจินตนาการภาพออกมาได้อย่างชัดเจนแน่นอน “เพลงของวี วีว่า แรกๆ เลยคือจริงใจ สองคือ ถ้าฟังเพลงวีจะเห็นภาพในหัว เพลงของวีสามารถไปเพนท์ภาพในหัวให้ได้ว่า มันเป็นยังไง เพราะการเขียนเพลงของวี จะเล่าด้วยภาพ ไม่ได้เล่าด้วยมวลความรู้สึกอย่างเดียว” 

วิโอเลตยังนิยาม Glitter and Smoke ว่าเป็นอัลบั้มที่สะท้อนถึงความเป็นตัวเธอเองออกมา 100% อีกเช่นกัน “Glitter and Smoke เป็นการผสมผสานในแต่ละด้านของตัวเรา มันไม่ได้มีแค่ความสดใส แล้วมันก็ไม่ได้มีด้านดาร์กอย่างเดียว อัลบั้มนี้มันยังเป็นการเก็บความทรงจำ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก้าวต่อไปในอนาคต…”

วี วิโอเลต

เมื่อพูดถึงอนาคตในฐานะศิลปิน วิโอเลตกล่าวว่ายังไม่ได้มองไกลถึงภายหน้ามากเท่าไหร่ ยังไม่รู้ว่าต้องไปถึงขั้นไหน และต้องคาดหวังอะไรอีกบ้าง แต่ก็หวังว่าจะได้ทำต่อไปเรื่องๆ “คำว่าคาดหวังมันคือ Expect แต่ถ้าหวังว่ามันคือ Hope สิ่งที่เรา Expect เรา Expect ได้จากตัวเองว่า เราจะทำอัลบั้มนี้นะ เราทำเสร็จแล้วเราปล่อยนะ นี่คือสิ่งที่เราคาดหวังได้ มันเป็นสิ่งที่อยู่ในความควบคุมของเขา ที่อยู่นอกเหนือจากนั้นก็ได้แต่หวังว่า เออ เขาจะชอบกันนะ”

แล้วคุณผู้อ่านล่ะ ชอบอัลบั้ม Glitter and Smoke ของเธอหรือไม่ และหากใครยังไม่เคยฟังล่ะก็ สามารถหาฟังได้แล้วทาง iTunes, Spotify, YouTube และ Joox

วี วิโอเลต

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า