เผาร่างซีอุยนักโทษคดีฆาตกรรมเด็ก ล้างมลทินคำว่ามนุษย์กินคน

เผาร่าง ‘ซีอุย’ นักโทษคดีฆาตกรรมเด็กเมื่อกว่า 60 ปี ล้างมลทินคำว่ามนุษย์กิน หลังไม่มีหลักฐานชัดเจน

ช่วงเช้าวันนี้นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดังและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เดินทางไปรับร่าง นายหลีอุย (ซีอุย) แซ่อึ้ง นักโทษประหารชีวิตคดีฆาตกรรมเด็ก เมื่อปี พ.ศ. 2502 จาก หน่วยนิติพยาธิ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช มาเตรียมประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจศพ ในเวลา 13.00 น. วันนี้ ที่วัดบางแพรกใต้ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมี ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมพิธี

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า หลังจากการที่มีการท้วงติงจากประชาชนและนักสิทธิมนุษยชนว่า การจัดแสดงร่างของนายซีอุยภายในพิพิธภัณฑ์กระทบสิทธิ์ของผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีทั้งการระบุชื่อและข้อความว่า ‘มนุษย์กินคน’ แต่จากพยานหลักฐานก็ยังไม่แน่ชัดว่านายซีอุยก่อเหตุจริงหรือไม่ ทำให้คณะแพทยศาสตร์ฯ ได้ร่วมประชุมกับทั้งกรมราชทัณฑ์ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อหารือในการจัดการร่างของนายซีอุยเพื่อความเหมาะสม

คณะแพทยศาสตร์ฯ ได้พยายามประกาศตามหาญาติของนายซีอุย ซึ่งผ่านมาประมาณ 1 เดือนก็ไม่พบ จึงพิจารณาตามข้อกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเดิมเมื่อ 60 ปีที่แล้ว กำหนดให้จัดการร่างของนักโทษประหารด้วยการฝังเท่านั้น เพื่อกรณีที่ญาติมาติดต่อภายหลังจะสามารถนำกระดูกให้ไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาได้ แต่ในปี 2542 กระทรวงยุติธรรมได้ประกาศให้สามารถทำการฝังหรือฌาปนกิจก็ได้ วันนี้จึงส่งร่างให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการต่อ

สำหรับ “ซีอุย แซ่อึ้ง” เกิดที่ประเทศจีน เมื่อปี พ.ศ. 2464 เดินทางเข้าไทยเมื่อปี พ.ศ. 2489 โดยทำงานรับจ้างหลายจังหวัด ในปี พ.ศ. 2501 เขาตกเป็นจำเลยคดีฆาตกรรมเด็กชายสมบุญ (สงวนนามสกุล) ที่ จ.ระยอง โดยถูกจับกุมระหว่างอำพรางศพและเขารับสารภาพ

ต่อมามีการโยงคดีฆาตกรรมเด็กอีก 2 คดีที่ จ.นครปฐม และกรุงเทพฯ ว่าเป็นฝีมือของซีอุย ช่วงแรกเขาให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาก็รับสารภาพอย่างมีเงื่อนงำ จากนั้นเขาถูกโยงเข้ากับคดีฆาตกรรมเด็กอีก 4 คดี ที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมเป็น 7 คดี อย่างไรก็ตาม ใน 6 คดีหลัง แม้ซีอุย ยอมรับสารภาพแต่เมื่อพิจารณารายละเอียดคำให้การ พบข้อขัดแย้งมาก จึงไม่สามารถระบุได้ว่าเขาลงมือกระทำจริงหรือไม่

ทั้งนี้ศาลได้ตัดสินประหารชีวิตซีอุย จากคดีฆาตกรรมเด็กชายสมบุญ ที่ระยองเพียงคดีเดียว โดยเขาถูกตัดสินประหารชีวิต เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2501 และมีการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2502 โดยหลังจากถูกประหารชีวิต ศพของซีอุยถูกนำมาดองเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ภายในโรงพยาบาลศิริราชนับแต่นั้น

กระทั่งกลางปี 2562 พิพิธภัณฑ์นิติเวช ศิริราช ปลดป้าย “มนุษย์กินคน” จากหน้าตู้โชว์ร่างซีอุย และต่อมาก็ได้นำร่างของซีอุยออกจากตู้โชว์ มีการประกาศตามหาญาติของซีอุย ให้มารับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่ไม่สามารถพิสูจน์หาญาติที่แท้จริงได้ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงทำหนังสือถึงเรือนจำบางขวาง กรมราชทัณฑ์ ให้มารับร่างซีอุย ไปประกอบพิธีทางศาสนา

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ (แฟ้มภาพ)

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2563  พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการที่กรมราชทัณฑ์จะทำพิธีฌาปนกิจศพ น.ช.ซีอุย ว่า หลังจาก นายซีอุย เสียชีวิตทางคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาลได้ขอผ่าศพของนายซีอุยเพื่อทำการศึกษาและพิสูจน์หาความผิดปกติเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากนายซีอุย มีลักษณะเป็นฆาตกรที่เรียกว่า serial killer เมื่อการผ่าพิสูจน์เสร็จสิ้นจึงมีการดองศพและจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้กับประชาชาที่สนใจที่พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ อาคารอดุลเดชวิกรม

อย่างไรก็ตาม ภายหลังทราบว่ามีชาวบ้าน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้าร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนว่า การจัดแสดงนิทรรศการศพซีอุยถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้เสียชีวิต เนื่องจากผู้ต้องหาได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ไม่ควรจะลิดรอนสิทธิจึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลศิริราช เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาดังกล่าว