ชาวบ้านปิดทางเข้าเหมืองหินดงมะไฟ เป็นวันที่ 5 รอความคืบหน้าศาลปกครองสูงสุด

จากกรณีที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ชุมนุมปิดทางเข้าเหมืองแร่หินปูน  ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู หลังจากที่ติดตามทวงถามการปิดเหมืองอย่างถาวรกับผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ไม่เป็นผล  โดยหน่วยงานราชการระบุถึงระเบียบขั้นตอน ทำให้ชาวบ้านได้เดินทางมาปิดทางเข้า-ออกเหมืองด้วยตัวเองตั้งแต่เมื่อบ่ายวันที่ 13  ส.ค. และต่อมาเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ได้มีการออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ในการต่อสู้ยืนหยัดเพื่อชัยชนะ

วันที่ 17 ส.ค. 2563 นางเปี่ยม สุวรรณสนธ์ ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได กล่าวว่า วันพรุ่งนี้  (18 ส.ค.)  จะมีตัวตัวแทนของกลุ่มเดินทางไปที่ศาลปกครอง กรุงเทพฯ  เพื่อฟังการแถลงคดีก่อนการพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด  ในคดีที่พวกเราฟ้องให้เพิกถอนใบอนุญาตการใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ  ป่าเก่ากลอยและป่านากลาง  เพื่อทำเหมืองแร่หินปูน  และใบอนุญาตประทานบัตรใบเก่าใบที่ทางโรงโม่ทำการระเบิดอยู่ในปัจจุบันนี้   ที่กำลังจะหมดอายุในวันที่  3  และ  24  ก.ย. ว่าจะแถลงออกมาว่าอย่างไร

จากนั้นเมื่อฟังการแถลงเสร็จแล้วก็จะไปยื่นเอกสารต่อหน่วยงานรัฐ เช่น กรมอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม  นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เพื่อประจานความล้มเหลวและความเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพวกเรามาเป็นเวลานาน  อยากให้มาเร่งแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ซึ่งเราจะรอคอยการแก้ไขปัญหาอย่างอดทน  ไม่หวั่นไหว  ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปิดเหมืองให้ได้ในรุ่นเรา

ด้าน นางสุนี  อนุเวร  อายุ 61 ปี ชาวบ้านโชคชัย ต.ดงมะไฟ หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่ร่วมต่อสู้ กล่าวว่า  ผลกระทบจากโรงโม่หิน มีทั้งฝุ่นละออง และทำให้บ้านพัง บ้านร้าว สิ่งแวดเป็นมลพิษ อยู่ยาก กินยาก  กระทบกับแหล่งทำมาหากิน ที่เคยสามารถหากินได้ตลอด ตามไร่นาก็ทำให้ไม่อุดมสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้เวลาจะทำอาหารก็สามารถขึ้นไปหาอาหารการกินได้ และยังเป็นแหล่งสมุนไพร เช่น ขิง กระชาย กำลังเสือโคร่ง เป็นแหล่งอีเห็น กระต่าย ค้างคาว คนแต่ก่อนอนุรักษ์พยายามอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานดู แต่เมื่อเกิดโรงโม่หินขึ้น ก็ได้สร้างแรงกระทบหรือบีบจิตใจ บังคับสิทธิและเสรีภาพของเราเกินไป เราต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2535 จนปัจจุบันก็ยังไม่เป็นผล คนตายก็ตายหลายแล้ว เราก็เรียกร้องเพียง 3 ข้อ (1) ปิดเหมืองหินและโรงโม่ (2) ฟื้นฟูภูผาป่าไม้ (3) พัฒนาดงมะไฟให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและอารยธรรมโบราณคดี อยากให้จบและปิดอย่างถาวร

กลุ่มชาวบ้านได้มีการรวมตัวกันปิดทางเข้าเหมือง  โดยจะมีป้ายแจ้งว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ หากจะเข้าภายในบริเวณพื้นที่จะต้องแจ้งชื่อ สกุล พร้อมติดป้ายชื่อ ตำแหน่งสังกัดก่อนเข้าทุกครั้ง เนื่องจากเป็นมาตรการเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย ซึ่งในช่วงว่างเวลากลางวันชาวบ้านบางส่วนก็ได้ออกหาเก็บของป่า อย่างเห็ดป่า หน่อไม้ มาเป็นอาหาร โดยในวันนี้ได้มีฝนตกลงมาบ้างเล็กน้อย ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมก็จะมีการเข้าออก หมุนเวียนกันไปมาอยู่ตลอดเวลา