รัฐสภาเตรียมประชุม 28 ส.ค. พิจารณาญัตติแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256

ประธานรัฐสภา บรรจุวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 แล้วนัดประชุม 28 ส.ค.นี้ ขณะที่ ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ หนุน แต่ต้องไม่แตะหมวด 1 และ หมวด 2 ด้าน ‘ส.ส.พรรคก้าวไกล’ ถอนชื่อขอแยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอตัด ส.ว. 250 คนด้วย

(นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์) ที่ปรึกษาประธานสภาฯ)

วันที่ 19 ส.ค. 2563 นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยผลตรวจสอบญัตติเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน พบ มีเนื้อหาผิดเล็กน้อยและมีการขีดฆ่ารายชื่อ 21 คน ซึ่งเป็น ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ซึ่งสภาต้องเรียกมายืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมให้ผู้นำฝ่ายค้านทำหนังสือยืนยันอีกครั้ง แต่รายชื่อผู้รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร มีครบแล้วตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนด

นพ.สุกิจ กล่าวอีกว่า ประธานรัฐสภาจึงบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา ซึ่งจะมีการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 28 ส.ค. นี้ แต่ไม่ได้อยู่ในระเบียบวาระแรก เพราะยังมีระเบียบวาระพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดที่รัฐบาลเสนอมา 3 ฉบับ และกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศอีก 1 ฉบับ หากไม่ทันเข้าสู่การพิจารณา ทาง ส.ว.ก็ตอบรับและสละวันประชุมวุฒิสภา วันที่ 15 ก.ย.ให้เป็นวันประชุมรัฐสภาได้

(แฟ้มภาพ : สุทิน คลังแสง)

ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ระบุถึงกรณีส.ส.พรรคก้าวไกล ถอนชื่อจากญัตติแก้รัฐธรรมนูญที่ผู้นำฝ่ายค้านเสนอนั้น ไม่มีปัญหา เราเคารพเหตุผลซึ่งกันและกัน พร้อมมั่นใจว่าฝ่ายค้านยังเดินหน้าต่อไปได้ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกรณีการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ในรัฐธรรมนูญที่พรรคก้าวไกลบอกว่า ไม่ควรล็อก แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านบอกว่าควรล็อกไว้ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยในที่ประชุมหลายรอบ เป็นเรื่องเทคนิคการเสนอกฎหมาย คนหนึ่งคิดเรื่องเนื้อหา คนหนึ่งคิดเรื่องเทคนิค ถ้าเสนอไปแล้วตกตั้งแต่ยกแรกก็ไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นเราเสนอแก้รัฐธรรมนูญหวังผลให้แก้ได้จริง ซึ่งจะต้องปิดจุดเสี่ยง

ความเสี่ยงที่ 1 คือ ส.ว. ความเสี่ยงที่ 2 คือผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2555 ที่บอกว่าการตั้ง ส.ส.ร. ปลายเปิด หมายถึงการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งคือการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มล้างการปกครอง ซึ่งเรื่องนี้ดูเหมือน ส.ว.ตั้งป้อมไว้ว่าจะเล่นเรื่องนี้ ดังนั้นหากเราเสนอไปแล้ว ส.ว.หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วนำไปเข้าสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสิ่งที่เราเสนออาจจะตกไป ดังนั้นเราจึงขอเลี่ยงข้อนี้ ส่วนหมวด 1 และ หมวด 2 เป็นสิ่งที่เราคิดต่างกันได้ แต่ในวาระ 2 แปรญัตติสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่จะทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญได้รับการบรรจุไม่ตกในยกแรก ส่วนการจะเพิ่มจะตัดอะไรให้ไปพิจารณาในวาระที่ 2 ซึ่งเราคิดเช่นนี้ เพราะเป็นเทคนิคของการแก้รัฐธรรมนูญที่จะสำเร็จและได้ผลจริงๆ

(แฟ้มภาพ : อนุทิน ชาญวีรกูล)

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำ 61 ส.ส.ของพรรค ยืนยันสนับสนุนการแก้ไขรัฐมนตรี มาตรา 256 ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ และเสนอให้รัฐสภาพิจารณารับรอง แต่ต้องไม่กระทบหมวด 1 และหมวด 2 อันเป็นลักษณะสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เช่นเดียวกับ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ก็ยืนยันสนับสนันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256