ก้าวไกล ชี้มีแค่ ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่พอ ต้องแก้เรื่อง ส.ว.ด่วน เผื่อถูกยื้อ-ยุบสภาก่อน

อย่างไรก็ตาม เมื่อญัตติที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา พรรคก้าวไกลก็จะโหวตสนับสนุนในวาระที่ 1 และจะขอแปรญัตติในวาระที่ 2 ต่อไป ซึ่งสุดท้ายเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นเช่นไร ผ่านกลไกของ ส.ส.ร. และการลงประชามติ

ขณะที่พรรคจะเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว เพราะกล่องดวงใจสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในการสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหาร คือ บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่กำหนดให้มี ส.ว. 250 คน จากการแต่งตั้งของ คสช. และมีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี

บทบัญญัติเช่นนี้เป็นการทำลายเจตจำนงของประชาชนและขัดต่อหลักการพื้นฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นพรรคก้าวไกลจึงขอเชิญชวนผู้แทนราษฎรที่มาจากประชาชน ช่วยกันเข้าชื่อเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติม รธน. ยกเลิกมาตรา 269 – 272 ในบทเฉพาะกาล ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. ให้ทันในสมัยประชุมนี้

นายชัยธวัช กล่าวต่อไปว่า การปิดสวิตช์ ส.ว.ไม่ควรรอให้ ส.ส.ร. เป็นผู้ดำเนินการ เพราะการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. อาจจะต้องใช้เวลาดำเนินการนานเกือบ 2 ปีถึงจะแล้วเสร็จ และประเด็นเรื่อง ส.ว. ที่ ส.ส.ร. ควรจะพิจารณาไม่ใช่เรื่องการพิจารณายกเลิกบทเฉพาะกาล แต่จะต้องเป็นการพิจารณาว่า ประเทศไทยยังจำเป็นต้องมี ส.ว. อยู่อีกหรือไม่ จะเป็นสภาเดียวหรือถ้ามีสองสภาควรจะต้องเป็นรูปแบบใด

นอกจากนั้น พรรคพรรคก้าวไกล เห็นว่ากระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 หรือการจัดตั้ง ส.ส.ร. นั้นอาจจะถูกเตะถ่วงไปในระหว่างนี้ภายใต้สถานการณ์ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความชอบธรรมทางการเมืองลดน้อยลงเรื่อยๆ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไม่ว่าจะด้วยการยุบสภา หรือลาออก หากยังไม่ปิดสวิตช์ ส.ว. กลไกสืบทอดอำนาจรัฐประหาร จะยังคงอยู่เพื่อแทรกแซงการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งยังคงขัดต่อเจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่อีกครั้ง

เมื่อถามว่า การยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว. ยังต้องอาศัยเสียง ส.ว. 1 ใน 3 ด้วย จะสำเร็จหรือไม่ นายชัยธวัช ยืนยันว่า เชื่อว่ากระแสสูงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นจากเสียงเรียกร้องกดดันจากนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วประเทศ จะมีผลในการผลักดันเรื่องนี้