นายกรัฐมนตรีรับปากช่วยเหลือเรื่องสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 24,000 ล้านบาท 7 สายการบินในประเทศไทยให้พ้นวิกฤติโควิด-19 เชื่อเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาจะฟื้นตัวได้ใน 1 ปี
วันที่ 28 ส.ค.2563 คณะผู้บริหารสายการบินในประเทศไทยประกอบด้วยนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารของไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยแอร์เอเชีย /ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ /ไทยสมายล์ แอร์เวย์ /ไลอ้อนแอร์ /ไทยเวียดเจ๊ท /บางกอกแอร์เวย์ และนกแอร์ เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อยื่นหนังสือขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจการบินของประเทศไทยจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ผู้ประกอบการขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟโลน รวมถึงการขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันและเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเครื่องบินไอพ่น การยกเว้นและการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการดำเนินงานในสายการบิน เช่น เรื่องpacking free ,landing free ค่าบริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้โดยสารและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรทางอากาศ
นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า วันนี้ถือว่ายิ้มออก เพราะนายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะช่วยเหลือสายการบินต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยขอให้ช่วยดูแลพนักงานไว้ก่อน โดยครั้งนี้นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะช่วยเหลือเรื่องซอฟโลนและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของท่าอากาศยาน หรือของวิทยุการบิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงคมนาคมยืนยันจะรีบดำเนินการให้ภายในเดือนตุลาคมนี้และจะต่ออายุให้อีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 แต่รัฐบาลมีแนวทางจะขยายเพิ่มให้ไปจนถึงมีนาคมปี 2565
ซอฟโลนที่ 7 สายการบินขอรวมกันเป็นจำนวน 24,000 ล้านบาท โดยขอผ่อนชำระ 5 ปี ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งคิดว่าซอฟโลนที่ได้มาจะสามารถช่วยพยุงกิจการสายการบินได้ เพราะเชื่อว่าการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ภายใน 1 ปี โดยคาดว่าซอฟโลนที่ได้จากรัฐบาลจำนวนครึ่งหนึ่งจะนำไปจ่ายเงินให้พนักงาน ซึ่งพนักงาน 7 สายการบินทั้งหมดรวมกันมีประมาณ 2 หมื่นคน ส่วนอีกครึ่งจะไปใช้จ่ายทั่วไป ดังนั้นยืนยันในส่วนของแอร์เอเชียจะไม่มีการปรับพนักงานออก