นายกฯ ย้ำจะทำให้ประเทศฟื้นโดยเร็ว ‘พิธา’ ซัดศก.ไทยปีนี้จะแย่สุดในอาเซียน

สรุปอภิปรายโดยทั่วไปแบบไม่ลงมติ ฝ่ายค้าน เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากอำนาจ ชี้บริหารประเทศทำเศรษฐกิจแย่

วันที่ 9 ก.ย. 2563 วันนี้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ในเรื่องทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่มีการลงมติ คาดว่าจะเสร็จสิ้นการประชุมในเวลา 24.00 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงในช่วงเช้าโดยสรุปว่า รัฐบาลมีความห่วงใยสถานการณ์ในประเทศทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ได้พยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศฟื้นกลับมาโดยเร็ว ส่วนที่มีผู้อภิปรายก่อนหน้านี้อ้างว่า รัฐบาลสมัยที่เป็น คสช. ไม่เคยถูกตรวจสอบเป็นเรื่อง เข้าใจผิดหรือไม่ เพราะกลไกการตรวจสอบต่างๆ ทำงานได้อยู่ตลอด

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวพอใจในการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากต่างประเทศด้วย ส่วนเศรษฐกิจไทยกับต่างประเทศ ที่มีผู้อภิปรายว่าเศรษฐกิจของเราแย่มากกว่าชาติอื่นๆ นั้น ได้มอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจมาชี้แจงต่อไป ตนยืนยันจะทำด้วยความโปร่งใส ชี้หลายปัญหาเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน ก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามา ไม่มีใครอยากทำ ซึ่งที่ตนบอกว่า จะรับผิดชอบคือรับผิดชอบในการแก้ปัญหาให้ลุล่วง

อีกอย่างที่ขอฝากว่า ตนฟังมาหลายครั้งแล้ว อย่ารังเกียจทหารมากนักเลย ทหารคือลูกหลานของท่าน ให้เขามีความภาคภูมิใจในการทำงานของเขา เขาทำงานด้วยความเสียสละอดทนต่อคำว่ากล่าว มีหลายท่านที่เป็นทหารมาก่อน ตนคิดว่าท่านคงไม่ประสบความสำเร็จในวงการทหารมาเท่าไหร่ ท่านก็มักจะโจมตีทหารด้วยกันอยู่เรื่อย อะไรที่เป็นประโยชน์ตนก็ฟังได้ ขออย่าแยกทหารออกจากประชาชน เพราะทหารเราทำงานหลายอย่างด้วยกัน ไม่เหมือนกับทหารต่างประเทศ ไม่ใช่บอกแต่เพียงว่าทหารไทยมีปฏิวัติ เขาทำอย่างอื่นตั้งเยอะ ทุกวันนี้ประชาชนพอใจหรือไม่ ถ้าไม่มีทหารท่านจะมีใคร ทหารคือลูกหลานของท่าน ไม่ใช่ลูกหลานของตน อย่าสร้างความเกลียดชังกัน

นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวยังกล่าวถึงกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาว่า เรื่องของเด็กๆ ตนไม่ได้มีปัญหากับเขา มีแต่คนทำให้เขามีปัญหากับตน สักวันก็คงรู้ใครบ้างที่ไปยุ่งเกี่ยว ไม่อยากให้ลุกลามบานปลาย ประเทศต้องสงบให้มากที่สุดในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา

ทั้งนี้มีผู้อภิปรายก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง ประกอบด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ผู้ยี่นญัตติฯ, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส. พรรคประชาชาติ ที่เน้นไปที่การสิ้นหวังทางเศรษฐกิจ โดยนายพิธา ยกข้อมูลมาชี้ว่า มีการประเมินว่า สิ้นปีนี้สเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในอันดับสุดท้ายของเอเซียน คนว่างงานเพิ่มขึ้น 5 เท่าจากก่อนหน้านี้ หนี้สินที่มีสิทธิ์เป็นหนี้เสียมากกว่าที่สถาบันการเงินไทยจะรับไหว ในขณะที่รายได้ของรัฐบาลหลุดเป้า