SHARE

คัดลอกแล้ว

กรมสุขภาพจิต เผย 6 เดือนแรกปี 63 โควิด-19 เริ่มระบาด มีรายงานคนไทยเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประมาณ 2,551 ราย คิดเป็น 3.89 ต่อประชากรหนึ่งแสนคนหรือเพิ่มขึ้น 22% คล้ายคลึงกับการเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อ 23 ปีก่อน

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงสถานการณ์ปัญหาการฆ่าตัวตายที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีความน่ากังวลว่าจากภาพรวมอัตราการฆ่าตัวตายของทั้งประเทศในปี 2562 อยู่ที่ 6.64 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน หรือมีคนไทยเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประมาณ 4,419 ราย ต่อปี โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องเป็นปัญหาด้านสัมพันธภาพ อาการป่วยกายและจิต สุรา และปัญหาด้านเศรษฐกิจ ตามลำดับ

สำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2563 ซึ่งเริ่มมีการระบาดของโควิด-19 พบว่ามีคนไทยเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประมาณ 2,551 ราย คิดเป็น 3.89 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกของปี 2562 (จำนวน 2,092 ราย) โดยปัญหาด้านสัมพันธภาพยังคงเป็นปัจจัยลำดับแรก ตามมาด้วยปัญหาอาการป่วยกายและจิต เศรษฐกิจ และสุรา ตามลำดับ

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นในอัตรานี้มีความคล้ายคลึงกับการเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อ 23 ปีก่อนที่มีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20-30 ในช่วง 3 ปีหลังเกิดวิกฤต กรมสุขภาพจิตรู้สึกกังวลต่อสัญญานการฆ่าตัวตายต่างๆ ในโลกโซเชียล แม้ว่าในปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียจะมีกลไกป้องกันการถ่ายทอดภาพและวิดีโอการทำร้ายตัวเองหรือการฆ่าตัวตายออนไลน์มากขึ้นแล้ว แต่ยังคงพบข้อความที่ส่งสัญญานที่มีความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายอยู่ เช่น ข้อความสั่งเสีย ข้อความบอกลา ข้อความวางแผนการทำร้ายตัวเอง ซึ่งกลุ่มคนที่โพสท์ข้อความต่างๆ เหล่านี้คือ กลุ่มคนที่ควรได้รับความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตอย่างเร่งด่วน แต่บางครั้งไม่สามารถติดต่อให้เข้าสู่ระบบบริการได้ หรือแม้แต่บางครั้งไม่สามารถหาข้อมูลหรือช่องทางติดต่อกลับไปยังบุคคลนั้นได้

กรมสุขภาพจิตจึงได้การศึกษาและพัฒนาระบบการทำงานร่วมกับกองปราบปรามเพื่อพัฒนาทีมเฉพาะกิจป้องกันการฆ่าตัวตายบนโลกโซเชียลขึ้น ถือเป็นการเปิดมิติการทำงานรูปแบบใหม่ของงานด้านสุขภาพจิตของประเทศไทยในอนาคต ร่วมกับการให้บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอดหลายปีที่ผ่านมา

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า เราได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือบุคคลที่ส่งสัญญาณความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย และไลฟ์สดฆ่าตัวตายบน บนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยกองปราบปรามร่วมกับกรมสุขภาพจิต และ Influencers ชื่อดังบนโลกออนไลน์ ทั้ง Drama-Addict, หมอแล็บแพนด้า, แหม่มโพธิ์ดำ และอื่นๆ ได้เริ่มพิจารณาระบบการส่งต่อข้อมูลบุคคลที่ส่งสัญญาณความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายบนโลกโซเชียล เพื่อให้ทางกองปราบปรามเร่งประสานสถานีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบเข้าช่วยเหลือบุคคลดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที ถึงแม้ขอบข่ายงานจะอยู่นอกเหนือคดีอาชญากรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปราม แต่กองปราบปรามถือว่าการช่วยเหลือบุคคลที่ส่งสัญญาณความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายบนโลกโซเชียล เป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของหน่วย เพราะเรามองว่า ความทุกข์ของพี่น้องประชาชนก็คือความทุกข์ของเรา อะไรที่เราสามารถเข้าไปช่วยให้พี่น้องประชาชนพ้นภัย หรือให้คลายทุกข์ลงได้บ้างเรายินดีทำเต็มที่

แนวทางการทำงานคือ กองปราบปราม จะมีเจ้าหน้าที่ประจำการค่อยประสานกับทาง Influencer และกรมสุขภาพจิต ตลอด 24 ชั่วโมง หากเราได้รับการประสานผู้ที่มีความเสี่ยง เราจะช่วยตรวจสอบว่าบุคคลที่มีความเสี่ยงนั้นๆอยู่ในพื้นที่ไหน และจะรีบประสานสถานีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบเข้าให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจนกว่าจะเรียบร้อย จากนั้นทางกรมสุขภาพจิตก็จะเข้ามาดูแลผู้มีความเสี่ยงต่อไป ทั้งนี้การทำงานร่วมกันกับกรมสุขภาพจิตนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของการทำงานภาครัฐ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ลดความทุกข์ของพี่น้องประชาชน และทางกองปราบปรามอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า ทุกปัญหามีทางออกเสมอ และครอบครัวมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากเรามองเห็นบุคคลในครอบครัวมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น การพูดคุยกันเข้าใจกัน หาทางแก้ปัญหาร่วมกัน จะช่วยให้ปัญหาต่าง ๆ คลี่คลายได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า