มหิดล แนะ ปรับธุรกิจให้ถูกทางก่อนผ่านปี 2020 เสนอหลักสูตรออนไลน์ระยะสั้นสำหรับคนทำธุรกิจ

ช่วงวิกฤตโควิด-19 กระตุ้นให้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด แต่การจะปรับตัวให้ถูกทิศถูกทางอาจต้องอาศัยข้อมูลชุดความรู้ ทำให้วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดหลักสูตร DBM ในรูปแบบเรียนสดออนไลน์ สำหรับนักธุรกิจที่พลาดโอกาสเรียนหลักสูตร MBA มองโลกดิจิทัลให้เป็นทางรอด ไม่ใช่ทางเลือก

ดร.ตรียุทธ พรหมศิริ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า ตอนนี้เราอยู่ในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 200 ปี หรือการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล และยังเผชิญกับโควิด-19 ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน จึงเป็นโจทย์ยากสำหรับคนทำธุรกิจที่จะกำหนดทิศทางการบริหารจัดการ ซึ่งหัวใจสำคัญคือการต้องรู้จักออกแบบคุณค่าทางธุรกิจของตนเอง (Value Proposition Design) และเข้าใจความต้องการตลาด โดยยกตัวอย่าง ช่วงโควิด-19 ที่วิทยาลัยกังวลว่าจำนวนนักศึกษาปริญญาโทจะลดลง  ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน แต่ปรากฏว่ามีคนสมัครมากกว่าช่วงเวลาปกติ อาจเพราะคนเริ่มไม่แน่ใจกับธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ต้องรีบหาความรู้ใหม่ ซึ่งการเรียนปริญญาโท หรือ MBA จะเป็นการเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้นำเคสธุรกิจของตนเองมาปรึกษาอาจารย์ และต่อยอดกับเพื่อนร่วมชั้นได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนทำงานอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถเรียน MBA ได้เต็มเวลา ทาง NEO Academy ภายใต้การกำกับดูแลของ CMMU จึงได้เปิดหลักสูตรที่กระชับและทันสมัย ในรูปแบบหลักสูตรระยะสั้น Mini MBA – Digital Business Management (DBM) ในรูปแบบเรียนสดออนไลน์

ปีหน้าเผาหลอกหรือเผาจริง เป็นคำถามที่จะเกิดขึ้นในทุกช่วงปลายปีกับเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะเกิดภัยแล้ง น้ำท่วม สถานการณ์การเมือง หรือ Digital Disruption แต่ถ้าเราเตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อน เสมือนกับการเตรียมซ้อมหนีไฟ ติดตั้งถังดับเพลิงไว้แล้ว ไม่ว่าจะเกิดการเผาขึ้นมาจริงๆ ก็ย่อมลดความสูญเสียไปได้ และภาคธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือ จากผลสำรวจของดีลอยท์ ประเทศไทย ในรายงาน The Thailand Digital Transformation Survey 2020 ที่ได้ทำการเก็บข้อมูลผู้บริหารระดับสูงในประเทศไทย พบว่า ผู้บริหารร้อยละ 52 บอกว่าธุรกิจของตนได้เริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว และ ร้อยละ 27 กล่าวว่า มีแผนในการเปลี่ยนแปลงองค์กรภายใน 1-3 ปีข้างหน้า โดยจุดประสงค์หลักของการเปลี่ยนแปลงนั้น แบ่งได้เป็น 3 จุดประสงค์หลัก ได้แก่

1. เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
2. เพื่อปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติการ
3. เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่ได้เริ่มทำการเปลี่ยนแปลงธุรกิจแล้ว ผู้บริหารยังคงเจอกับความท้าทายที่หลากหลาย โดยความท้าทายในการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้เป็นความยากด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยปัจจัยอื่น เช่น วัฒนธรรมองค์กร วิธีการทำงาน รวมถึงโครงสร้างขององค์กร ผู้บริหารส่วนใหญ่มองว่าอุปสรรคสำคัญประกอบไปด้วย 5 ด้าน ดังนี้

อันดับที่ 1 ขาดผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (49%)

อันดับที่ 2 วัฒนธรรมองค์กรไม่สนับสนุน (45%)

อันดับที่ 3  มีระบบทำงานที่แยกส่วน (37%)

อันดับที่ 4 ไม่มีวิสัยทัศน์ในการทรานส์ฟอร์มชัดเจน (30%)

อันดับที่ 5 ไม่มีการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรที่เพียงพอ (26%)

ดร.ตรียุทธ  กล่าวอีกว่า ภาคองค์กรที่ติดต่อทางวิทยาลัยให้ไปทำ In-house training (การฝึกอบรม) มากขึ้น ซึ่งประสบปัญหาด้านต่างๆ สอดคล้องการรายงานของดีลอยท์ ทำให้มองเห็นว่าความยากของการปรับเปลี่ยนธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี แต่เป็นการทำให้คนมี Growth Mindset หรือ การมองว่าอุปสรรคไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ทำสิ่งใหม่ ดังนั้น การทำให้ง่ายและใช้งานได้จริง คือสิ่งที่จะช่วยให้คนที่กำลังกลัวกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล หายจากอาการกลัวนี้และกล้าไปต่อ วิทยาลัยจึงพยายามสอนมากกว่า การหารายได้

สำหรับหลักสูตร MBA ใช้เวลาพร้อมทำวิทยานิพนธ์ประมาณ 2 ปี แต่เมื่อเป็นหลักสูตร Mini MBA  ใช้เวลา 2 เดือน โดยจะประกอบไปด้วย

1. 1. บรรทัดฐานใหม่ของการบริหารธุรกิจยุคดิจิทัล
2. 2. ทักษะการเป็นผู้นำในยุคดิจิทัล
3. การสร้างองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
4. การทำธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม
5. การเงินและการระดมทุนยุคดิจิทัล
6. การตลาดยุคดิจิทัล

จุดเด่นของหลักสูตร คือ มีส่วนผสมของ ภาคปฏิบัติและทฤษฎี โดยสอนร่วมกับผู้บริหารธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และสามารถถามตอบแบบใกล้ชิด เนื่องจากเป็นการเรียนสดออนไลน์ ผ่านโปรแกรม Zoom สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของหลักสูตรและสมัครเรียนได้ที่ https://www.neobycmmu.com/

“การเรียนออนไลน์ไม่ได้ถูกจำกัดที่อายุและสถานที่อีกต่อไป ในรุ่นแรก มีผู้เรียนมาจากเหนือจรดใต้ อายุตั้งแต่ 20 ต้นๆ จนถึง 60 กว่า มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้กัน มหิดลตั้งใจทำการเรียนการสอนหลักสูตรนี้ให้เหมือนห้องเรียนจริงมากที่สุด ผู้เรียนสามารถสร้างคอนเนคชั่นกับเพื่อนในชั้นจากทั่วประเทศได้ผ่านกิจกรรมกลุ่ม ถามตอบอาจารย์ได้แบบเรียลไทม์” ดร.ตรียุทธ   กล่าว