รู้จัก “QAnon” ทฤษฎีสมคบคิด ที่กำลังเขย่าเลือกตั้งสหรัฐฯ

ท่ามกลางการชิงชัยระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน เพื่อก้าวสู่การเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ตอนนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว ในสังคมอเมริกันหลายกลุ่มกำลังพูดถึง “QAnon” ซึ่งถูกมองว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่นำไปสู่ความรุนแรง และอาจเป็นคลื่นใต้น้ำพลิกผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้

วันนี้ workpointTODAY สรุปที่มาและแนวคิดของ QAnon มาให้อ่านเป็นข้อๆ ดังนี้

1️⃣ “QAnon” (คิวอานอน) เริ่มปรากฎความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2560 หรือเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เมื่อมีผู้ใช้นิรนามคนหนึ่ง โพสต์ข้อความลงในเว็บบอร์ด “4chan”

ผู้ใช้นิรนามคนนี้เรียกตัวเองว่า Q และอ้างว่าเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ในชั้นความลับระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เรียกว่า Q Clearance

แนวคิดของ QAnon คือความพยายามอธิบายว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วมมือกับนักการเมืองพรรคเดโมแครต สื่อและผู้มีอิทธิพลในวงการต่างๆ พยายามสร้างรัฐซ้อนรัฐ (Deep State) ครอบงำอเมริกา

2️⃣ QAnon ถูกมองว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่หยิบเอาหลายประเด็นมาพูดถึง ตั้งแต่ข้อสงสัยเกี่ยวกับภารกิจลับใน Area 51 การมีอยู่ของยูเอฟโอ ไปจนถึงการเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี้ ที่กลุ่ม QAnon เชื่อว่าถูกสังหารเพราะพยายามเปิดโปงขบวนการลับในรัฐบาลสหรัฐฯ

3️⃣ QAnon ยังมีความเชื่อว่า ปัจจุบันมีขบวนการลักพาตัวเด็ก โดยผู้ก่อเหตุลักพาตัวเด็กใช้ร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นฐานกักขังและล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยบางส่วนเชื่อว่า ขบวนการลักพาตัวเด็กกลุ่มนี้ได้นำเลือดของเด็กที่จับตัวเอาไว้ ไปดื่มเป็นยาอายุวัฒนะด้วย

ที่สำคัญ QAnon เชื่อว่า ขบวนการลักพาตัวเด็กที่เกิดขึ้นนี้มีนางฮิลลารี คลินตัน อดีตคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อ 4 ปีที่แล้วอยู่เบื้องหลัง

ความเชื่อของ QAnon ยังเริ่มมีการผูกโยงเหตุลักพาตัวเด็กกับนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของนายโจ ไบเดนอีกด้วย

4️⃣ ความเชื่อของ QAnon ถูกแพร่กระจายเป็นวงกว้างในโลกออนไลน์ ผ่านแฮชแท็กเช่น #SaveTheChildren #Wherewegoonewegoall และ #WWG1WGA ซึ่งนอกจากในสหรัฐฯ แล้ว ความเชื่อของ QAnon ยังลุกลามเข้าไปในหลายประเทศแถบละตินอเมริกาและยุโรป เช่นในเยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษและอิตาลี

โดยในชาติอื่นๆ นอกอเมริกา ผู้ที่เชื่อในแนวคิด QAnon เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 บางส่วนออกมาประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ผสมโรงกับความเชื่อที่มีบางคนเชื่อว่า โรคโควิด-19 ไม่มีจริง

ขณะที่องค์กรช่วยเหลือเด็ก Save the Children ที่บังเอิญมีชื่อตรงกับแฮชแท็กที่กลุ่ม QAnon ใช้เผยแพร่ข้อมูลพอดี ออกมาแสดงท่าทีว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

5️⃣ นอกจากการกล่าวหานักการเมืองพรรคเดโมแครตอยู่เบื้องหลังขบวนการลักพาตัวเด็ก และมีบทบาทครอบงำการเมืองอเมริกาแล้ว ทฤษฎีสมคบคิด QAnon ยังถูกเชื่อมโยงถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างชัดเจนขึ้นไปอีก เมื่อมีการกล่าวอ้างว่า กองทัพสหรัฐฯ พยายามล้มล้างอำนาจที่ครอบงำรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วยการมอบหมายให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ลงชิงชัยเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ หวังให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าไปรื้อโครงสร้างรัฐซ้อนรัฐในทำเนียบขาว

QAnon ระบุว่าความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ถูกฝ่ายตรงข้ามลดทอนความน่าเชื่อถือด้วยการระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้เผยแพร่ข่าวปลอม พร้อมกล่าวหาว่าประธานาธิบดีทรัมป์มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลรัสเซีย ก่อนจะเรียกร้องให้คนที่เชื่อในแนวคิด QAnon สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งสหรัฐฯ รอบนี้

6️⃣ ปัจจุบันมีคนใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์หลายคนที่อาจมีแนวโน้มเป็นผู้สนับสนุนแนวคิด QAnon เช่นนายอิริค ทรัมป์ บุตรชายประธานาธิบดีทรัมป์ที่เคยโพสต์มีม QAnon ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีผู้สนับสนุน QAnon บางส่วนที่เป็นนักการเมืองและกำลังลงชิงเพื่อเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า เขาไม่รู้จัก QAnon จะรู้อยู่บ้างก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

7️⃣ ทฤษฎีสมคบคิด QAnon เติบโตอย่างรวดเร็วในสังคมอเมริกัน มีผู้เห็นด้วยกับแนวคิดนี้จำนวนมาก และเริ่มปรากฎว่า มีผู้สนับสนุนบางคนพยายามก่อเหตุรุนแรงโดยมีเป้าหมายเป็นสถานที่หรือบุคคลที่พวกเขาเชื่อว่า อยู่เบื้องหลังขบวนการที่กลุ่ม QAnon กล่าวอ้าง

สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ ระบุให้แนวคิด QAnon เป็นภัยคุกคามการก่อการร้ายในประเทศเมื่อปีที่แล้ว เช่นเดียวกับศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายของโรงเรียนเตรียมทหารสหรัฐฯ (The United States Military Academy – West Point) ระบุว่า QAnon เป็นความท้าทายใหม่ต่อความมั่นคงสาธารณะ

ส่วนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่แนวคิด QAnon เริ่มเข้ามาจัดการกับทฤษฎีสมคบคิดนี้ เช่นเฟซบุ๊กที่เริ่มติดตามโพสต์ที่มีแนวคิดสอดคล้องกับ QAnon ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และไล่ลบบัญชีที่มีแนวโน้มว่าอาจทำให้เกิดความรุนแรง เช่นเดียวกับทวิตเตอร์ รวมทั้งยูทูปที่ประกาศลบวีดีโอและปิดบัญชีที่เผยแพร่แนวคิด QAnon โดยระบุว่าเป็นไปตามนโยบายต่อต้านการสร้างความเกลียดชังและการคุกคามที่อาจนำไปสู่การสร้างความรุนแรงได้ในชีวิตจริง