ทรัมป์ช่วยหาเสียง ส.ว. รัฐจอร์เจีย จับตาผลชี้ขาดใครคุมวุฒิสภา ยังย้ำชัดไม่ยอมแพ้-ไบเดนขโมยชัยชนะ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันไบเดนขโมยชัยชนะในการปราศรัยช่วยผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาในรัฐจอร์เจียหาเสียง ขณะที่หลายฝ่ายจับตาการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่รัฐจอร์เจีย เพราะจะชี้ขาดว่าใครจะคุมเสียงในวุฒิสภาสหรัฐฯ

วันที่ 6 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางไปช่วยผู้สมัครชิงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาหาเสียงที่รัฐจอร์เจียเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) โดยในการปราศรัยช่วงหนึ่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ยังยืนยันว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีขโมยชัยชนะไปจากเขาในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันที่จะไม่ยอมแพ้ต่อนายโจ ไบเดนอย่างแน่นอน

ประธานาธิบดีทรัมป์ยังช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐจอร์เจียโดยพยายามโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิ์ในรัฐจอร์เจียเลือกพรรครีพับลิกัน หากไม่ต้องการให้ลูกหลานเติบโตในประเทศที่จะกลายเป็นสังคมนิยม ซึ่งเป็นสิ่งที่นายทรัมป์ใช้โจมตีนโยบายของพรรคเดโมแครต และนายไบเดนมาตลอด

การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในรัฐจอร์เจีย ซึ่งมีกำหนดลงคะแนนเสียงในวันที่ 5 ม.ค. กลายเป็นสมรภูมิสำคัญหลังการเลือกตั้งทั่วไป เนื่องจากในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมา พรรคเดโมแครตกลับมาพลิกชนะพรรครีพับลิกัน เจ้าของพื้นที่เดิมในรัฐจอร์เจียได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี โดยนายไบเดนมีคะแนนนำประธานาธิบดีทรัมป์แค่ 12,000 คะแนน

อย่างไรก็ตาม แม้ฝ่ายประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องนับคะแนนใหม่ โดยมีความพยายามถึงขั้นที่ประธานาธิบดีทรัมป์โทรศัพท์ไปร้องขอให้ผู้ว่าการรัฐจอร์เจียใช้อำนาจล้มการเลือกตั้ง แต่ผู้ว่าการรัฐจอร์เจียยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ ทำให้ในท้ายที่สุดผลการเลือกตั้งที่รัฐจอร์เจียยืนยันว่า ว่าที่ประธานาธิบดีไบเดนจากพรรคเดโมแครตเป็นผู้ชนะในรัฐนี้

ขณะเดียวกันการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในรัฐจอร์เจียยังมีผลชี้ขาดถึงสถานะของสองพรรคการเมืองใหญ่ในวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้วย เนื่องจากหากพรรคเดโมแครตพลิกกลับมาชนะพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นเจ้าถิ่นเดิม ได้ที่นั่งสมาชิกวุฒิสภาในรัฐจอร์เจียทั้ง 2 ที่นั่ง จะทำให้คะแนนเสียงในวุฒิสภาสหรัฐฯ ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเท่ากันทันที และจะเป็นอำนาจของนางกมลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะชี้ขาดมติต่างๆ หากวุฒิสภาลงคะแนนเท่ากัน ซึ่งจากผลสำรวจล่าสุด ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำอยู่ 1 คน ส่วนอีก 1 คน กำลังสูสีกับคู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน