รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจของอินโดนีเซียเจรจาทำข้อตกลงกับผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ฝั่งตะวันตก หลังได้รับวัคซีนจากจีนแล้วจำนวนหนึ่ง
วันที่ 29 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า อินโดนีเซียวางแผนที่จะเซ็นสัญญาจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ ไฟเซอร์ (Pfizer) และ แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) โดยตั้งจำนวนไว้สูงสุดที่ 200 ล้านโดส จากการเปิดเผยของรัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย
การทำข้อตกลงครั้งนี้แบ่งเป็นฝั่งรัฐบาลที่ดีลกับไฟเซอร์ ในการสั่งวัคซีน 50 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะเซ็นสัญญากันในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม และทาง พีที ไบโอ ฟาร์มา (PT Bio Farma) ผู้พัฒนาวัคซีนที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ได้เซ็นสัญญากับแอสตร้าเซนเนก้าในสัปดาห์นี้อีก 50 ล้านโดส สัญญาของทั้งคู่ยังมีทางเลือกให้จัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ได้อีกบริษัทละ 50 ล้านโดส
วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าจะเริ่มส่งมาที่อินโดนีเซียตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนวัคซีนของไฟเซอร์จะเริ่มมาถึงเร็วที่สุดเดือนกรกฎาคมปีหน้า เป็นการทยอยส่งมาเรื่อยๆ จนไปสิ้นสุดที่ไตรมาสแรกของปี 2565
ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียได้สั่งจองวัคซีนจาก ซีโนวัค (Sinovac) ของจีน ที่ส่งมาถึงแล้ว 1.3 ล้านโดสเมื่อช่วงต้นเดือน และมีแผนที่จะนำมาฉีดให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข โดยต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานด้านอาหารและยาเสียก่อน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ชาวอินโดนีเซียจำกัดการเดินทางในช่วง 10 วันแรกของปี 2564 เนื่องจากกังวลว่าเชื้อโควิด-19 จะแพร่ระบาดมากขึ้นหลังเทศกาลเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปี นอกจากนั้นยังได้ระงับไม่ให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไปจนถึงกลางเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อรายงานการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ในสหราชอาณาจักร โดย ณ ตอนนี้ยังไม่พบการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้ในอินโดนีเซีย