SHARE

คัดลอกแล้ว

กลางดึกวันที่ 18 ม.ค. 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศระบุถึงการปรากฎข้อมูลปัญหาระบบงานของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub)

กรณีไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ตามปกติและมีการหยุดชะงักของระบบงานสำคัญ ได้แก่ ระบบซื้อขายในวันที่ 2 วันที่ 3 และวันที่ 16 ม.ค. 2564 และได้ปรากฎข้อร้องเรียนเป็นจำนวนมาก

คณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงมีมติให้บริษัทส่งแผนการแก้ไขให้ ก.ล.ต. และดำเนินการแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหา อาทิ ระบบการซื้อขาย ระบบฝากถอน ระบบให้บริการติดต่อลูกค้า ระบบยืนยันตัวตน ฯลฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน

อันถือเป็นการลงดาบเร่งรัดให้ ‘บิทคับ’ จัดการปัญหาในองค์กรโดยเร่งด่วน

ย้อนกลับไป ณ จุดเริ่มต้นของ ‘บิทคับ’ ก่อนจะมาสู่คำสั่งจ่อลงดาบของ ก.ล.ต. ในวันนี้

บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) ก่อตั้งในเดือน ก.พ. 2561 เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนรุ่นใหม่สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยให้บริการแก่บุคคลทั่วไปในการซื้อขายและเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล โดยจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามระเบียบด้วยทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท และมีที่ตั้งสำนักงานอยู่ ณ กรุงเทพ ประเทศไทย

หลังจากการเปิดให้บริการราว 2 ปี ในช่วงปลายปี 2563 บริษัทฯ แจ้งสู่สาธารณชนว่ามีการเติบโตเฉลี่ยกว่า 600% ในช่วงที่ผ่านมา

โดยในบางเดือนมีการเติบโตทะลุ 1000% และมีการเปิดรับพนักงานมากกว่า 50 ตำแหน่ง พร้อมเตรียมเปิดรับเพิ่มเติมอีกในอนาคต เพื่อรองรับกับจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

“บิทคับมีเป้าหมายการเติบโตทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เราอยากเป็นยูนิคอร์นให้ได้เพราะเมืองไทยยังไม่มี โดยมีเป้าหมายจะต้องเติบโต 10 เท่าเพื่อก้าวสู่การเป็นยูนิคอร์น” จิรายุสเปิดเผยเอาไว้ในช่วงกลางปี 2563

ในฐานะแพลตฟอร์มที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในเวลานั้น ทำให้ ‘บิทคับ’ โดดเด่นอย่างยิ่ง และทำให้ ‘ท็อป’ หรือ ‘จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา’ ขยับขึ้นสู่สปอร์ตไลท์ในฐานะนักธุรกิจและนักลงทุนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นที่สุดในตลาด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากวันที่ 3 ม.ค. 2564 ที่มูลค่าของ ‘บิตคอยน์’ ในไทยขยับแตะ 1,000,000 บาทเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ ทำให้นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากพุ่งตัวเข้าสู่ตลาดบิตคอยน์ และมี ‘บิทคับ’ เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคและดันการเติบโตของบริษัทให้เติบโตขึ้นกว่า 1,000% ภายในเวลาเพียง 7 วัน

ทว่าในวันเดียวกันหน้าแฟนเพจเฟซบุ๊กของ ‘บิทคับ’ ก็ปรากฎคอมเม้นต์ร้องเรียนความล่าช้าของระบบ ทั้งในการยืนยันตัวตน ระบบคอลเซ็นเตอร์ และการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล

ก่อนวันที่ 8 ม.ค. ‘บิทคับ’ จะออกประกาศชดเชยให้กับลูกค้าที่ประสบปัญหาระหว่างการใช้จ่าย ทั้งการยืนยันตัวตน การเข้าระบบ และการแสดงผล เป็นเครดิตค่าธรรมเนียมฟรีเบื้องต้น 500 เครดิต

โดยระบุว่าความผิดพลาดของระบบในวันที่ 3 ม.ค. 2564 เกิดจากจำนวนลูกค้าใหม่ที่ลงทะเบียนและผู้เข้าใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบข้อข้องและต้องปิดปรับปรุงระบบเร่งด่วน

หลังจากนั้นไม่นานบิทคับก็ได้ปิดให้บริการระบบเพื่อแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกครั้งในวันที่ 16 ม.ค. 2564 ก่อนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันเดียวกัน

โดย ‘จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ได้แจ้งบนเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อสาธารณะว่า

“เสียใจมากๆ และไม่มีข้อแก้ตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลูกค้าเข้ามาเยอะมากจริงๆ ครับ เดี๋ยวบริษัทจะจัดตั้งกองทุนพิเศษ 100 ล้านบาท Bitcub Customer Protection Fund ขึ้นมา ไม่ต้องห่วงนะครับทุกคน”

เหตุการณ์นั้นจึงนำมาสู่การออกประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงกลางดึกของวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติให้บริษัทส่งแผนการแก้ไขให้ ก.ล.ต. และดำเนินการแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลา 5 วัน เพื่อคุ้มครองนักลงทุน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ให้บริษัทฯ แก้ไขการดำเนินการตามระบบงานต่าง ๆ ได้แก่ ระบบการซื้อขาย ระบบการฝากถอนเงินและสินทรัพย์ดิจิทัล ระบบการแสดงข้อมูลทรัพย์สินลูกค้า ระบบการให้บริการติดต่อลูกค้า ระบบการรับลูกค้า การยืนยันและพิสูจน์ตัวตนลูกค้า (KYC) และการเปิดบัญชี ระบบการจัดการเรื่องร้องเรียน และการจัดการบุคลากรให้เหมาะสมและเพียงพอกับปริมาณลูกค้าและธุรกรรม

แก้ไขนโยบายการรับลูกค้าให้เหมาะสมกับระบบงานที่พร้อมให้บริการตามข้อตกลงระดับการให้บริการที่ตกลงไว้กับลูกค้า (Service Level Agreement)

แก้ไขระบบงานที่สามารถรองรับการประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan) ให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ระบบซื้อขายขัดข้อง สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจ ปริมาณลูกค้า และธุรกรรมในปัจจุบัน

และแก้ไขการดำเนินการตามระบบงานที่ช่วยเสริมสร้างและรักษากลไกการทำงาน ของระบบซื้อขายให้มีความเรียบร้อย (Market Surveillance)

ในที่สุดเพจเฟซบุ๊กของ ‘บิทคับ’ จึงแจ้งจะปิดปรับปรุงแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ชั่วคราว ณ เวลาราว 23.00 น.ของวันที่ 18 ม.ค. 2564 ก่อนจะออกประกาศว่า บริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าเวลาเปิดให้บริการอีกครั้งในเวลา 6.00 น.ของวันนี้ (19 ม.ค. 2564)

ก่อนบริษัทฯ จะประกาศเลื่อนเวลาแจ้งความคืบหน้าออกไปเป็นเวลา 9.00 น. และแจ้งปิดรับลงทะเบียนลูกค้าใหม่เป็นการชั่วคราว เนื่องจากอยู่ในระหว่างการพัฒนาปรับปรุงและขยายระบบครั้งใหญ่

จนถึงเวลาประมาณ 9.00 น. บริษัทฯ จึงได้แจ้งว่าระบบจะเริ่มกลับมาใช้งานได้เป็นปกติหลัง 11.00 น. (19 มกราคม 2021) เป็นต้นไป

โดย workpointTODAY ได้ติดต่อไปยัง ‘จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ‘บิทคับ’ ได้รับคำตอบว่ายังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์และยังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาระบบอย่างเต็มที่

ล่าสุด เพจ ‘บิทคับ’ ได้ประกาศอีกครั้งในเวลาประมาณ 11.00 น.ว่าทั้งแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ยังอยู่ในช่วงขยายและพัฒนาระบบ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนเวลาเปิดระบบ และจะมีการแจ้งเวลาเปิดระบบให้ทราบอีกครั้งโดยเร็วที่สุด โดยขออภัยเป็นอย่างสูงในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น

ประกาศดังกล่าวก่อให้เกิดคลื่นความไม่พอใจจำนวนมากจากลูกค้าที่ได้รับหรืออาจจะได้รับความเสียหายที่เกิดจากการปิดระบบแลกเปลี่ยนที่กำลังอยู่ในช่วงผันผวนขึ้นลงต่อเนื่อง

เวลาอีก 4 วันที่เหลือจึงเป็นช่วงวัดใจว่า ‘บิทคับ’ ดาวรุ่งวงการเทรดเงินดิจิทัลจะสามารถฝ่าปัญหารอดพ้นการลงดาบของ ก.ล.ต.หรือไม่ และรักษาความไว้เนื้อเชื่อใจของลูกค้าอย่างไรในเวลาที่ยากลำบากซีอีโอยังยอมรับว่าไม่ง่าย

“ปีที่แล้ววางแผนว่าบริษัทต้องโต 600% ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายที่ใหญ่มากสำหรับบริษัทในประเทศ แต่ผลคือเราโต 1000% มากกว่าที่คาดไว้ตั้ง 400% พอราคาต่อบิตคอยน์ถึงหนึ่งล้านบาท พวกเราโตอีก 1000% ภายในเจ็ดวันจากจุดที่สูงอยู่แล้ว เราเลยรับไม่ทันจริงๆ งานที่เราทำต้องมีทีมงานอย่างต่ำ 600-700 คน ถึงจะรับไหว แต่ตอนนี้เรามีกันอยู่แค่ 220 คน ต้องทำงานข้ามปีกันทุกคน

ตอนแรกคิดว่าเป็น Good Problem แต่ตอนนี้ชื่อเสียงเริ่มเสียแล้ว เพราะสัญญาไว้ว่าต้องเปิดบัญชีให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่รอเจ็ดวันก็ยังไม่ได้เลยครับตอนนี้ ต้องขอโทษลูกค้าด้วย เราให้เครดิตคนละ 500 บาทเพื่อชดเชยตรงนี้ วันหนึ่งบริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นวันละยี่สิบล้าน เพื่อตอบแทนลูกค้าที่เราทำผิดสัญญาจริงๆ” จิรายุสได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ The Cloud ไม่กี่วันก่อนจะเกิดเหตุ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า